?ชะโงกไปดู 5 หมู่บ้าน ที่ทำให้โลกหยุดหมุน

1803
0
Share:

5 หมู่บ้าน ที่ทำให้โลกหยุดหมุน

หากลองจินตนาการว่า คุณได้เข้าไปอยู่ในหมู่บ้านแสนสวยงาม ? ท่ามกลางธรรมชาติ ? บรรยากาศร่มรื่น สุขสงบ และสุดแสนโรแมนติก มันจะดีขนาดไหนกันนะ ? แต่ความใฝ่ฝันนี้ ไม่ได้มีอยู่แค่ในความคิดเท่านั้น เพราะทราวิสโกจะพาคุณไปชะโงกดู 5 หมู่บ้าน ที่ทำให้โลกหยุดหมุน ? แต่ละที่นั้นสวยงามราวกับหลุดออกมาจาก โลกแห่งนิยายกันเลยค่ะ  ดีต่อใจทั้งนั้น ไปชมพร้อม ๆ กันเลย

5 หมู่บ้าน ที่ทำให้โลกหยุดหมุน Hallstatt, Austria

? Hallstatt, Austria

“หมู่บ้านฮัลล์ทัทท์” เป็นหมู่บ้านเก่าแก่และมีความสวยงามมาก ได้รับการขนานนามว่า “เป็นหมู่บ้านริมทะเลสาบที่สวยที่สุดในโลก” ? ด้วยทัศนียภาพอันแสนงดงาม วิวจากทะเลสาบฮัลล์สตัทเทอร์ (Hallstatter See) ? สีน้ำเงินเป็นจุดเด่นที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงไป อาคารบ้านเรือนเล็ก ๆ น่ารัก ๆ โอบล้อมด้วยเทือกเขาหิมะสูงตระหง่าน บรรยากาศอันสงบที่ชวนหลงใหล ? เป็นที่ประทับใจนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกที่ได้มาเยือน จนที่นี่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็น “มรดกโลกทางวัฒนธรรม”  จากองค์การยูเนสโก เมื่อปี ค.ศ. 1997

5 หมู่บ้าน ที่ทำให้โลกหยุดหมุน Bergen, Norway

? Bergen, Norway

“ความโรแมนติกท่ามกลางสายฝน”  คงเป็นคำนิยามเมื่อเอ่ยถึง “เบอร์เก้น” เมืองหลวงอันดับ 2 ของประเทศนอร์เวย์ มีสถิติออกมาว่า ที่นี่จะมีฝนตกฉุกเฉลี่ย 300 กว่าวันตลอดทั้งปี ถึงแม้ว่าจะเป็นเมืองที่มากับฝน แต่ความสวยงามของหมู่บ้านแห่งนี้นั้น น่ารักมาก ๆ เลยล่ะค่ะ ? อาคารบ้านเรือนที่ทำจากไม้เก่าแก่หลากสี เรียกว่า “Bryggen (บริกเกน)” ? ซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์ของนอร์เวย์ ช่างแต่งเติมสีสันสดใสให้เมืองดูมีชีวิตชีวา ? ผสานกับวิวริมทะเล ? และโอบกอดด้วยขุนเขาน้อยใหญ่ถึง 7 ลูก จนได้รับสมญานามว่าเป็น “เมืองเเห่งเจ็ดขุนเขา” 

5 หมู่บ้าน ที่ทำให้โลกหยุดหมุน

? Colmar, France

“กอลมาร์” หมู่บ้านเล็ก ๆ ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของฝรั่งเศส ที่นี่เป็นบ้านเกิดของศิลปปินชื่อดังอย่าง “มาร์ติน โชนเกาเออร์”? จิตรกรและช่างแกะพิมพ์มากฝีมือ และ “เฟรเดริก โอกุสต์ บาร์ตอลดี”ประติมากรผู้ออกแบบอนุสาวรีย์เทพีเสรีภาพ ? เมืองนี้มีลักษณะคล้ายกับเมืองเวนิช เพราะมีคลองพาดผ่านตัวเมือง จนได้รับการขนานนามว่า “Little Venice” (ลิตเติ้ลเวนิส)” ตามเส้นทางเดินต่าง ๆ จะถูกประดับประดาด้วยดอกไม้หลากสีสวยงาม ? ชวนให้เบิกบานใจ อาคารบ้านเรือน ? ถูกสร้างมาอย่างสวยงามตามแบบฉบับบ้านเรือนในยุคกลาง บรรยากาศสุดแสนโรแมนติก ? หากมีโอกาสได้มาเที่ยวฝรั่งเศสอย่าลืมแวะมาสัมผัสความสวยงามของเมืองนี้ด้วยตัวเองกันนะคะ

? Manarola, Italy

“หมู่บ้านมานาโรล่า” เป็นหมู่บ้านที่ตั้งอยู่บนไหล่เขา ด้านล่างมองเห็นทะเลสีฟ้าสวยสดใสสุดสายตา ? อาคารบ้านเรือนในเมืองนี้ ถูกทาทับด้วยสีลูกกวาดแสนหวาน ? ตัดกับสีเขียวของผืนป่า ? บนภูเขาที่โอบกอดเมืองแห่งนี้เอาไว้ บรรยากาศค่อนข้างเงียบสงบและเรียบง่าย แต่แฝงไปด้วยความงามจับใจ ภายในหมู่บ้านมีเพียงถนนหลักเพียงเส้นเดียวที่ตัดกลางผ่านหมู่บ้าน แต่คับคั่งไปด้วยร้านคาเฟ่ ? ร้านอาหาร ? และร้านขายสินค้าท้องถิ่นมากมาย ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก และภาพของหมู่บ้านก็ปรากฏในสื่ออยู่บ่อยครั้ง หากใครได้มาชมพระอาทิตย์ตกดินที่นี่สักครั้ง ? จะไม่ทำให้คุณผิดหวังและประทับใจทุกวินาที

? Giethoorn, Netherlands

“เวนิสแห่งเนเธอร์แลนด์” คือฉายาของ “หมู่บ้านกีธูร์น ” หมู่บ้านที่ตั้งอยู่ระหว่างเมือง Zwolle และเมือง Steenwijk ภายในเต็มไปด้วยทะเลสาบและลำคลอง ? ลัดเลาะตามอาคารบ้านเรือนแต่ละหลัง จนทำให้หมู่บ้านแห่งนี้มีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า “หมู่บ้านปลอดถนน” ? ผู้คนจะอาศัยเรือเป็นพาหนะในการเดินทาง หมู่บ้านกีธูร์นเริ่มเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวจากภาพยนตร์คอมเมดี้เรื่อง “Fanfare”? ซึ่งใช้หมู่บ้านนี้เป็นฉากถ่ายทำ ภายหลังนักท่องเที่ยวเริ่มเดินทางมาท่องเที่ยวกันมากขึ้น จนทำให้ที่หมู่บ้านแห่งนี้มีชื่อเสียงขึ้นมา หากใครอยากมาสัมผัสความร่มรื่นและสิ่งปลูกสร้างสุดคลาสสิกสไตล์ชาวดัตช์ ก็เดินทางมาเที่ยว หมู่บ้านกีธูร์น ? กันได้เลยน๊า

สถานที่ท่องเที่ยวต่างประเทศที่แนะนำ
☑️ เปิดโลกกว้างสู่ “ จอร์เจีย ” ประเทศงดงามดั่งเทพนิยาย
➡️ เปิดทริปเปย์ นอร์เวย์ 10 ที่เที่ยวชวนตกหลุมรัก
✅ 5 เมืองน่าเที่ยวในออสเตรีย ทริปนี้ไม่เพลีย มีแต่ความฟิ๊นนน

Share:

Leave a reply