เที่ยวเวียดนามเหนือ ชมความงามธรรมชาติที่สวยไม่แพ้แถบยุโรป

469
0
Share:

ใครไปเที่ยวยุโรปจนเบื่อแล้ว อยากเปลี่ยนบรรยากาศมาเที่ยวประเทศใกล้ ๆ บ้าง ใช้เวลาบินเพียงไม่กี่ชั่วโมง พบกับความงามของธรรมชาติที่สวยไม่แพ้แถบยุโรป TRAViZGO ชวนเที่ยวต่างประเทศ วันนี้จะพามาเที่ยวอีกหนึ่งประเทศที่กำลังได้รับความนิยมนั่นก็คือ ประเทศเวียดนาม ประเทศเพื่อนบ้านที่อยู่ไม่ไกลจากประเทศไทย เตรียมเก็บกระเป๋าไปเช็คอินกัน โดยครั้งนี้จะพาขึ้นเหนือไปเที่ยวแถวเวียดนามเหนือ จะมีที่ไหนบ้างตามมาดูกันได้เลย

  • ซาปา (SAPA)

ไปสัมผัสมนต์เสน่ห์ของธรรมชาติ ชมทุ่งนากลางสายหมอกที่ ซาปา (SAPA) หนึ่งในแลนด์มาร์คธรรมชาติสุดสวยที่ห้ามพลาด ซาปา ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของเวียดนาม ใกล้กับชายแดนจีน มีภูมิประเทศเป็นที่สูง อยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลปานกลาง ทำให้มีอากาศที่เย็นสบายตลอดทั้งปี ในช่วงที่ฝรั่งเศสปกครองเวียดนามเมืองแห่งนี้ถูกใช้เป็นที่พักผ่อน เพราะความเงียบสงบและมีอากาศที่ดี แต่หนึ่งในสิ่งที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มายังที่นี่คือ ท้องนาสีเขียวที่เรียงรายเป็นขั้นบันไดที่สวยงาม โดยมีให้เห็นกันมากมายหลายที่ในซาปา แต่ที่เป็นที่นิยมมากที่สุดคงเป็นที่หมู่บ้านชาวม้งดำที่ตั้งอยู่ในหุบเขา Muong Hoa หมู่บ้านกั๊ตกั๊ต (Cat Cat Village) ตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองซาปาประมาณ 2 กิโลเมตร สิ่งที่ทำให้หมู่บ้านแห่งนี้เป็นที่นิยมเนื่องจากมีทิวทัศน์ที่สวยงาม รายล้อมไปด้วยทุ่งนาสีเขียวขจีที่พลิ้วไหวไปกับสายลม เสมือนว่าอยู่ในดินแดนแห่งความฝัน นอกจากความสวยงามแล้ว ยังได้สัมผัสกับวิถีชีวิตของชาวพื้นเมือง มีร้านค้าขายสินค้าพื้นเมืองให้เราได้ซื้อกลับไปเป็นของฝากอีกด้วย ใครอยากมาถ่ายรูปนาขั้นบันไดสุดสวย ไม่อยากให้พลาดที่นี่

  • เขาฟานซิปัน (Fansipan Mountain)

อีกหนึ่งที่สวยใน ซาปา นอกจากนาขั้นบันได ยังมีภูเขาสวย เขาฟานซิปัน (Fansipan Mountain) ภูเขาที่สูงที่สุดในเวียดนาม มีความสูงกว่า 3,143 เมตร (10,312 ฟุต) ได้ชื่อว่าเป็นหลังคาแห่งเวียดนาม ภูเขาแห่งนี้ตั้งอยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองซาปา ห่างเพียง 9 กิโลเมตร ในสมัยก่อนการจะเดินทางขึ้นไปยังยอดเขาต้องใช้เวลากว่า 2-3 วัน แต่ทุกวันนี้ใช้เวลาเพียงแค่ 15-20 นาทีเท่านั้นก็สามารถไปถึงยอดเขาได้ โดยการนั่งกระเช้าไฟฟ้า Sunworld Fansipan Legend ที่สร้างเสร็จในปี พ.ศ. 2559 ให้ทุกคนสามารถขึ้นไปบนยอดเขาได้อย่างง่ายดาย ส่วนใครเป็นสายแอดเวนเจอร์ อยากผจญภัยก็สามารถปืนเขาตามเส้นทางธรรมชาติได้ โดยจะใช้เวลาประมาณ 2-3 วัน เป็นหนึ่งในเส้นทางทดสอบความแข็งแกร่ง ระหว่างเส้นทางยังสามารถพบเจอสัตว์ต่าง ๆ เข่น นก, หมี, ลิง, เลียงผาและพืชนานาชนิด และอีกหนึ่งการเดินทางที่แนะนำคือ รถไฟโมโนเรลสาย Muong Hoa รถไฟที่วิ่งบนภูเขาที่มีระยะทาง 2 กิโลเมตร และเป็นหนึ่งในเส้นทางรถไฟที่สวยที่สุดในเวียดนาม รถไฟแล่นผ่านสะพานและอุโมงค์ที่มีวิวทิวทัศน์ระหว่างทางที่สวยงาม ไฮไลท์ของเส้นทางคือ หุบเขาเมืองหัว (Muong Hoa Valley) และหมู่บ้านชาวเขา มาซาปาทั้งทีอย่าลืมแวะมานั่งรถไฟสายนี้

  • ฮาลองเบย์ (Halong Bay)

หนึ่งในลิสต์ที่ใครมาเวียดนามห้ามพลาด อ่าวฮาลอง หรือ  ฮาลองเบย์ (Halong Bay) หนึ่งในมรดกโลกทางธรรมชาติ ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนโดย UNESCO เป็นส่วนหนึ่งของอ่าวตังเกี่ย (Gulf of Tonkin) สถานที่แห่งนี้อยู่ไม่ไกลจากกรุงฮานอย เป็นอ่าวขนาดใหญ่ มีพื้นที่กว่า 1,500 ตารางกิโลเมตร มีเกาะน้อยใหญ่จำนวนมากกว่า 1,969 เกาะ และมีบริเวณชายฝั่งยาวกว่า 120 กิโลเมตร อ่าวแห่งนี้มีชื่อเวียดนามว่า Vinh Ha Long ซึ่งแปลว่า อ่าวแห่งมังกรผู้ดำดิ่ง ไฮไลท์ของเกาะแห่งนี้ คือการนั่งเรือชมทิวทัศน์ที่สวยงาม เที่ยวเกาะต่าง ๆ เกาะต่วนเจิว (Tuan Chau) เกาะกัดบา (Cat Ba Island) เกาะไก่ชน เกาะช้าง เกาะหลังคา เที่ยวถ้ำสวรรค์ (Thiên Cave) ถ้ำที่มีโถงขนาดใหญ่ มีหินงอกหินย้อยรูปทรงแปลกตาควรค่าแก่การมาชม ใครที่ไม่ชอบนั่งเรือก็สามารถนั่ง Queen Cable Car กระเช้าไฟฟ้า 2 ชั้น ชมวิวฮาลองเบย์จากมุมสูง เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งที่สวยของเวียดนามที่ควรมาเที่ยว

  • Ho Chi Minh Mausoleum

หากกล่าวถึงบุคคลที่มีความสำคัญต่อเวียดนาม ชื่อแรกที่หลายคนนึกถึงคงจะหนีไม่พ้น โฮจิมินห์ นักปฏิวัติผู้ยิ่งใหญ่ของประเทศเวียดนาม ผู้ที่ช่วยเวียดนามให้เป็นอิสระภาพ เที่ยวชมสุสานของโฮจีมิน (Ho Chi Minh Mausoleum)  สุสานแห่งนี้ตั้งอยู่ที่จัตุรัสบาดิงห์ จัตุรัสที่อยู่กลางเมือง ตั้งอยู่ห่างจากทะเลสาบ โฮว่านเกี๋ยม ประมาณ 2 กิโลเมตร สุสานขนาดใหญ่ ที่สร้างด้วยหินอ่อน และไม้ที่มีค่าจากทั่วประเทศ สร้างขึ้นหลังจากที่โฮจิมินห์เสียชีวิต 4 ปี สร้างในปี ค.ศ. 1973 เดินเข้าไปภายในจะพบกับห้องโถงใหญ่ ซึ่งตรงกลางมีโลงแก้วบรรจุร่างของลุงโฮหรือโฮจิมินห์นอนสงบอยู่ โดยด้านหน้าจะมีกองทหารในชุดเครื่องแบบเต็มยศยืนอารักขา สถาปัตยกรรมของสุสานแห่งนี้ได้แรงบันดาลใจจากสุสานในมอสโคว สุสานเลนิน และได้นำมาผสมผสานกับสถาปัตยกรรมเวียดนาม ทำให้มีความงามที่เป็นเอกลักษณ์ ข้อแนะนำในการมาเที่ยวชม สุสานแห่งนี้ไม่อนุญาตให้ใส่กระโปรง/กางเกงขาสั้นเข้าชม

  • แม่น้ำงอด็อง (Ngô Đồng)

ปิดท้ายกันที่การนั่งเรือลัดเลาะไปตามแม่น้ำชมความงามของธรรมชาติทั้ง 2 ฝั่ง ที่ตามก๊ก (Tam Coc) ส่วนหนึ่งของจังหวัดนิ่นห์บิ่นห์ (Ninh Binh) ประเทศเวียดนาม สถานที่แห่งนี้ได้รับการกล่าวขานให้เป็น กุ้ยหลินแห่งเวียดนาม  กิจกรรมหลักของที่นี่คือการล่องเรือในแม่น้ำงอด็อง (Ngô Đồng) สายน้ำที่ไหลคดเคี้ยวไปตามธรรมชาติผ่านภูเขาน้อยใหญ่ ทุ่งนาสีเขียว ทุ่งนาเป็นพื้นที่ทำการเกษตรของคนในพื้นที่ โดยจะมีสีเขียวสวยงามในช่วงฤดูใบไม้ผลิ แต่พอเขาฤดูเก็บเกี่ยว จะเปลี่ยนเป็นสีทองอร่ามให้ความสวยงามไปอีกแบบ อีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้ที่นี่ได้ชื่อว่ากุ้ยหลินเวียดนาม คือภูเขาหินปูน รูปทรงต่าง ๆ  ไม่ว่าจะเป็น ภูพญาเต่า หรือ ภูหัวมังกร ที่เรียงรายอยู่ระหว่างทาง หนึ่งในไฮไลท์ของการมาล่องเรือที่นี่คือการชมถ้ำที่เกิดจากการกัดเซาะของน้ำทะเลเป็นระยะเวลาหลายพันปี โดยมีถ้ำทั้งหมด 3 แห่ง และเป็นที่มาของชื่อ ตามก๊ก ที่แปลว่า 3 ถ้ำ ประกอบด้วยถ้ำฮางก่า (Hang Ca Cave) ถ้ำที่มีจุดเด่นคือทางเข้าจะมืดสนิท แต่พอยิ่งเดินเข้าไปจะสว่างขึ้นเรื่อย ๆ ถ้ำมีความลึกประมาณ 127 เมตร และกว้าง 20 เมตร ภายในยังมีหินงอกหินย้อยที่สวยงาม ห่างจากถ้ำแห่งนี้ไม่ไกลจะพบกับอีก 2 ถ้ำคือ ถ้ำฮางฮาย (Hang Hai Cave) ที่ลึกเพียง 60 เมตร และถ้ำฮางบา (Hang Ba Cave) ที่ลึก 50 เมตร อีกหนึ่งที่เที่ยวธรรมชาติที่สามารถมาเที่ยวได้ตลอดทั้งปี

ทัวร์เวียดนาม : https://www.thaitravelcenter.com/vietnamtour/

Share:

Leave a reply