✨ จากพาร์ทที่แล้วที่ได้พาท่านเดินทางไป “เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก” กันแล้ว ในวันนี้..จะนำท่านไปกันต่อที่ “มอสโคว์” และจะมีอะไรน่าสนใจกันบ้าง ไปดูกันเลย ?
? การเดินทางพาร์ทที่ผ่านมา : https://blog.travizgo.com/uncategorized/reviewrussia/
? DAY 5 : เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก – พิพิธภัณฑ์ออโรร่า – ห้าง Galeria – สนามบินเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก – มอสโคว ✨
? วันนี้จะเป็นวันสุดท้ายในเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก มุ่งหน้าสู่มอสโคว ดังนั้น ในวันนี้แพลนของผมจึงค่อนข้างสบายมากครับ
เริ่มจากการไปเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์เรือรบออโรร่า (The Battleship Aurora) โดยความสำคัญของเรือลำนี้คือ ได้ออกไปร่วมรบในสงครามระหว่างรัสเซียและญี่ปุ่น แต่ด้วยวิทยาการอันก้าวหน้าของญี่ปุ่น รัสเซียจึงเป็นฝ่ายพ่ายแพ้กลับไป ต่อมา ในช่วงเปลี่ยนแปลงการปกครอง ในช่วงปลายสงครามโลกครั้งที่ 2 เยอรมันบุกเข้าโจมตีรัสเซียหมายจะยึดพระราชวังฤดูหนาว รัสเซียจึงตัดสินใจจมเรือรบออโรร่าลง เพื่อป้องกันการถูกทำลายในขณะนั้น และเมื่อสิ้นสุดสงคราม รัสเซียก็ได้กู้เรือขึ้นมาอีกครั้ง และปรับปรุงเป็นพิพิธภัณฑ์ในปัจจุบัน หลังจากเยี่ยมชมประวัติศาสตร์ของเรือรบออโรร่าแล้ว ได้ไปเดินพักผ่อนที่ห้าง Galeria เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนขึ้นเครื่องบินไปมอสโคว
? ในการเดินทางครั้งนี้ ไปด้วยเที่ยวบิน SU6019 เวลา 16:55 น. ถึงมอสโควเวลา 18:30 น. แวะทานอาหารเย็น
และเข้าเช็คอินที่พัก Holiday Inn Seligersk Moscow อีกครั้งนึง ?
? DAY 6 : มอสโคว – ชาร์กอร์ส – โบสถ์ทรินิตี้ – โบสถ์อัสสัมชัญ ✨
? ในวันนี้ จะเดินทางไปยังเมือง “ชาร์กอร์ส (Zagorsk)” ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของมอสโคว ไปประมาณ 70 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง โดยความสำคัญของเมืองนี้คือ เป็นเมืองโบราณ และเต็มไปด้วยศาสนสถานของมอสโคว
ภายในเมือง ผมได้เข้าชมโบสถ์ทรินิตี้ (The holy Trinity – St. Sergius Lavra หรือ Trinity Cathedral) ซึ่งเป็นโบสถ์แห่งแรกของเมืองชาร์กอร์ส ภายในโบสถ์ตกแต่งด้วยภาพเฟรสโก และภาพไอคอน 5 ชั้น มีโลงศพสีเงินของนักบุญเซอร์เจียส สำหรับชาวเมืองที่ศรัทธาในตัวท่าน ก็จะมาเคารพด้วยการจูบลงบนฝาโลงศพครับ
โบสถ์ถัดมาที่ผมได้เข้าชมก็คือ โบสถ์อัสสัมชัญ โดยโบสถ์นี้ เป็นการสร้างเลียนแบบโบสถ์อัสสัมชัญที่จัตุรัสวิหารเครมลินครับ สำหรับใครที่จะเข้าชมที่โบสถ์นี้ งดใช้เสียงนะครับ เพราะด้านในมีการประกอบพิธีกันจริงๆ เลย
? DAY 7 : มอสโคว – จัตุรัสแดง – วิหารเซนต์บาซิล – ห้างกุม – พระราชวังเครมลิน – พิพิธภัณฑ์อาเมอร์รี่ – วิหารเซนต์ ซาเวียร์ ✨
? เวลาแห่งความสนุกใกล้หมดลง เหลืออีกเพียง 1 วัน ก็จะต้องกลับแล้ว วันนี้ผมจึงต้องเช็คอินหลายๆ สถานที่เพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์ดีๆ ก่อนกลับครับ เริ่มด้วย จัตุรัสแดง (Red Square) เป็นที่แรกครับ ที่ลานแห่งนี้ มีประวัติศาสตร์ต่างๆ เกิดขึ้นมากมาย ไม่ว่าจะเป็น การเฉลิมฉลองทางศาสนา หรือการประท้วงทางการเมือง
ในปัจจุบัน จัตุรัสแดงใช้เป็นสถานที่จัดงานเทศกาลต่างๆ เช่น ปีใหม่ วันชาติ วันแรงงาน และ วันระลึกถึงสงครามโลกครั้งที่ 2 ใกล้ๆ กันนี้ มีห้างเก่าแก่ของที่นี่ นั่นก็คือ “ห้างกุม (GUM)” ซึ่งขอบอกเลยว่า ขาช้อปไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง เพราะไม่ว่าจะเป็น เสื้อผ้า เครื่องสำอาง น้ำหอม สินค้าแบรนด์เนมต่างๆ รวมไปถึงของที่ระลึก ที่นี่มีครบ มากมายให้เลือกสรร
อีกไฮไลท์นึงที่น่าสนใจของจัตุรัสแดงนั่นก็คือ มหาวิหารเซนต์บาซิล (Saint Basil’s Cathedral) ที่ถูกสร้างขึ้นมาในสมัยพระเจ้าอีวานที่ 4 เพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งชัยชนะเหนือพวกตาตาร์ (มองโกล)
หลังจากชมมหาวิหารเซนต์บาซิลกันแล้ว ก็แวะเติมพลังด้วยอาหารกลางวัน เพื่อไปต่อที่ “พระราชวังเครมลิน (Grand Kremline Palace)” ด้านในทางซ้ายมือ จะพบอาคาร The Arsenal คลังแสงสมัยโบราณนั่นเอง ตัวอาคารจะเป็นสีเหลือง พร้อมปืนหลายกระบอกตั้งอยู่ด้านหน้า คลังแสงนี้ไม่อนุญาตให้เข้าชมนะครับ ในด้านขวามือ จะเป็น The state Kremline Palace ซึ่งแน่นอนว่าห้ามเข้าชมอีกเช่นกัน ในพระราชวังเครมลิน จะมีลูกศรกำหนดเส้นทางเดินตลอด ห้ามเดินผิดเส้นทาง มิฉะนั้นเหล่าทหารที่คอยสังเกตการณ์อยู่จะเป่านกหวีดเพื่อให้เรากลับเข้าสู่เส้นทางที่เตรียมไว้ให้ครับ
เดินกันมาได้สักพัก ก็ได้เจอกับจุดเช็คอินของที่นี่ “ปืนใหญ่พระเจ้าซาร์ (Tsar Cannon)” นั่นเอง ว่ากันว่า เป็นปืนใหญ่ที่ใหญ่ที่สุดในโลก แต่ไม่เคยถูกใช้ในสงครามโลก เพราะปากกระบอกมีความสั้นเกินไป หน้าที่ของปืนใหญ่กระบอกนี้ จึงทำได้เพียงขู่ หรือ ข่มขวัญคู่ต่อสู้เท่านั้นครับ เมื่อมีปืนใหญ่ที่ใหญ่ที่สุดในโลกแล้ว ถัดมาจะเจอ “ระฆังที่ใหญ่ที่สุดในโลก” หรือก็คือ ระฆังพระเจ้าซาร์ (The Tsar Bell) มีลวดลายสวยงาม แต่ !! ในระหว่างกำลังหล่อระฆังอยู่นั้น ก็เกิดไฟไหม้ในเครมลินซะก่อน ทำให้ระฆังร้าว และแตกออกในที่สุด หลังจากนั้นได้มีการนำเศษชิ้นส่วนที่แตกมาตั้งจัดแสดงบนพื้นแทนการแขวนที่ “หอระฆังอีวาน”
เมื่อเลี้ยวมาทางขวา จะเจอจัตุรัสวิหาร ที่ตั้งโบสถ์ 3 หลังที่สำคัญ นั่นก็คือ ?
“โบสถ์อันนันซิเอชั่น (Catherdral of the Annunciation)”
“โบสถ์อาคาเกล (Cathedral of St. Michael the Archangel)”
และ โบสถ์ที่เก่าแก่และมีความสำคัญที่สุด Cathedral of the Dormition หรือ อีกชื่อนึงคือ โบสถ์อัสสัมชัญ (Assumption) ถูกสร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงการสิ้นพระชนม์ของพระแม่มารีย์ ผู้ให้กำเนิด พระเยซู
ถัดมาจะพบกับ พิพิธภัณฑ์อาเมอร์รี่ (Kremline Armoury Chamber) ? พิพิธภัณฑ์ที่เก่าแก่ที่สุดของรัสเซีย ถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้เก็บทรัพย์สมบัติต่างๆ ของพระเจ้าอเล็กซานเดอร์ที่ 1 ซึ่งมีจำนวนมากกว่า 2.7 ล้านชิ้น !!
สุดท้ายก็เดินลัดเลาะออกมาเพื่อไปยังวิหารเซนต์ซาเวียร์ ซึ่งเป็นวิหารโดมทองที่ใหญ่ที่สุดของรัสเซีย ตั้งอยู่ใจกลางเมือง ติดกับแม่น้ำมอสโคว์ รอบๆ วิหารจะมีภาพหล่อโลหะรูปนักรบโบราณและกษัตริย์ ซึ่งไม่อนุญาตให้ถ่ายภาพ ก่อนจะจบวันไปกับการล่องเรือทานอาหารบนแม่น้ำมอสโควครับ
? DAY 8 : มอสโคว – พิพิธภัณฑ์อวกาศ – Izmailovo Market – เนินเขาสแปร์โรว์ – สนามบิน ดามาเดียดาวา – สุวรรณภูมิ ✨
? วันสุดท้ายของการเดินทาง ในวันนี้เริ่มต้นวันใหม่ด้วยการออกสู่อวกาศครับ ที่พิพิธภัณฑ์อวกาศจะแสดงให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ของรัสเซียในปี ค.ศ 1960 ยุคที่อเมริกาและรัสเซีย ต่างขับเคี่ยวกันเพื่อพิชิตอวกาศให้ได้ ความโดดเด่นของที่นี่คือ Monument to the Conquerors of Space หรือก็คือ อนุสาวรีย์รูปจรวดที่สร้างขึ้นจากเหล็กกล้าและไทเทเนียม ซึ่งเป็นวัสดุที่ทำเครื่องบินจริงๆ และมีความสูงถึง 100 เมตร ไฮไลท์ภายใน Museum of Cosmonautics จะจัดแสดงเรื่องราวของการท่องอวกาศของรัสเซียในยุคนั้น การสร้างยานอวกาศ เรื่องราวของ ยูริ กาการิน ผู้ซึ่งเป็นมนุษย์คนแรกที่เดินทางไปยังอวกาศ และเดินทางกลับมาได้อย่างปลอดภัย หรือจะเป็นเรื่องราวของ “ไลก้า (Laika)” สุนัขตัวแรกที่ได้ออกไปท่องอวกาศ แต่ด้วยวิทยาการในสมัยนั้นก้าวหน้าไม่เพียงพอ เจ้าไลก้าจึงไม่สามารถมีชีวิตกลับมาได้ ถึงอย่างนั้น ร่างของเจ้าไลก้ายังคงถูกสตาฟเพื่อให้ผู้คนได้มาเจอกับสุนัขผู้กล้าหาญตัวนี้ คอลเลคชั่นอื่นๆ ที่จัดแสดง ถูกจัดแบ่งเป็นโซนๆ ไม่ว่าจะโปสเตอร์ หรือกระทั่งชุดของ ยูริ กาการิน ที่หาชมได้ยาก
เมื่อเสร็จภารกิจในอวกาศ ก็กลับมาสู่พื้นโลก ที่ตลาดอิสมายโลโว (Izmailovo) ตลาดพื้นเมืองที่มีของฝากต่างๆมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ตุ๊กตาคุณแม่ลูกดก (Matryoshka), ผ้าพันคอ, หีบเพลงหรือกล่องดนตรี หลังจากช้อปปิ้งได้ของติดไม้ติดมือไปฝากคนที่เรารักแล้ว ก็ไปเช็คอินสถานที่สุดท้าย “เนินเขาสแปร์โรว์ (Sparrow Hills)” เป็นจุดชมวิวที่นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายรูปก่อนขึ้นเครื่องกลับครับ
ภารกิจสุดท้าย หมดเวลาสนุกแล้วสิ ผมต้องกลับแล้วครับ
ในครั้งนี้ ? ผมได้เดินทางด้วยเที่ยวบิน TG 975 ของสายการบินไทย เวลา 22:05 น. และเดินทางถึงไทยเวลา 11:10 ตามเวลาท้องถิ่น ถือเป็นการจบทริปมอสโควใน 8 วันของผมครับ
เป็นยังไงกันบ้าง กับประสบการณ์ที่ผมนำมาแบ่งปันกัน ถ้าเพื่อนๆ คนไหนมีแพลนอยากไปท่องเที่ยวที่รัสเซีย จะตามรอยผมไปก็ยินดีเลยนะครับ กดเซฟ กดแชร์ เก็บไว้กันได้เลย ถ้าเพื่อนๆ คนไหนได้ไปเที่ยวที่รัสเซียมาแล้ว มีประสบการณ์อะไรอยากแบ่งปัน พิมพ์มาได้ที่คอมเมนต์ด้านล่างเลยนะครับ ในทริปหน้า ผมจะไปประเทศไหน เมืองอะไรอีก อย่าลืมติดตามชมกันนะครับ ?
วันนี้ลาไปก่อน สวัสดีคร้าบ ?