TRAViZGO Blog
Main Menu
ทราวิซโกบล็อก
กิน
เที่ยว
โปรโมชั่น
รีวิว
เทคโนโลยี
ไลฟ์สไตล์
ข่าว
ทราวิซโกบล็อก
กิน
เที่ยว
โปรโมชั่น
รีวิว
เทคโนโลยี
ไลฟ์สไตล์
ข่าว
แจกแพลน เที่ยวเชียงใหม่ในวันหยุด 2 วัน 1 คืน
Travel
By
TRAViZGO
October 17, 2020
8300
0
Share:
เข้าสู่ช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2020 ลมหนาวก็เริ่มพัดผ่านมา สังเกตได้ว่า คงจะเริ่มเข้าใกล้ช่วงหน้าหนาวที่ละนิดกันแล้วล่ะค่ะ ซึ่งในทุก ๆ ปี เดสติเนชั่นยอดฮิตประจำหน้าหนาวนั้น ก็คงหนีไม่พ้น
“เชียงใหม่”
เมืองยอดฮิตครองใจเหล่านักท่องเที่ยวทั้งหลาย ซึ่งไม่ว่าจะมาที่นี่สักกี่ครั้ง เชียงใหม่ก็ใหม่ไม่มีเอ้าท์อยู่เสมอ ทั้งสถานที่ท่องเที่ยว สวนดอกไม้ คาเฟ่ ที่พัก เที่ยวได้ไม่มีเบื่อและไม่รู้จบ
ในวันนี้ แอดก็จะขอนำ
แพลนเที่ยวเชียงใหม่ในวันหยุด 2 วัน 1 คืน
มาฝากเพื่อน ๆ กัน ด้วยความที่แอดเป็นมนุษย์เงินเดือน ใจมันก็เรียกร้องหาเชียงใหม่ซะเหลือเกิน แต่เรามีเวลาแค่วันหยุดเสาร์-อาทิตย์มันจะเที่ยวคุ้มมั้ย ไม่ต้องกังวลกันเลยนะคะ เที่ยวตามแพลนของแอดรับรองว่าคุ้มค่า แถมไม่ต้องลาหยุดกันให้ยุ่งยากอีกด้วยนะ พร้อมแล้ว ไปกันเลยยยย
•·
Day 1
·
•
ไปเชียงใหม่ไม่ยากเลยนะคะ เพียงแค่นั่งเครื่องบินใช้เวลาเพียงชั่วโมงนิด ๆ เท่านั้นเอง เราก็แลนดิ้งถึงสนามบินเชียงใหม่กันแล้วเจ้า ซึ่งแอดได้จองตั๋วกับ
“Travizgo”
เจ้าประจำ ไม่ต้องเสียเวลานั่งไล่หาตั๋วเครื่องบินราคาถูก เพราะทางทราวิสโกได้รวบรวมมาไว้ให้แล้วล่ะค่ะ จองง่าย จ่ายสะดวก รับดีลพิเศษสุดคุ้มในทุกวัน แถมไม่ต้องเชียงเวลากรอกโค้ดส่วนลดกันอีกด้วย จองปุ๊บ รับส่วนลดปั๊บเลย คุ้มแบบนี้หาที่ไหนไม่ได้อีกแล้วนะ
จองตั๋วเครื่องบินคลิก
https://www.travizgo.com/flight/
●
ประตูท่าแพ
แอดเดินทางมาถึงสนามบินเชียงใหม่ในช่วงเช้า เวลาประมาณ 9 โมงกว่า ๆ อากาศกำลังดีเลยค่ะ ขอสูดอากาศเมืองเหนือกันให้ชุ่มปอดเสียหน่อย อยู่เมืองกรุงเจอแต่ฝุ่นควันรถมาเสียนาน ได้โอกาสมาท่องเที่ยวและพักผ่อนในเมืองแห่งนี้ นับว่าดีไม่เลวเลยทีเดียว สำหรับที่แรกที่แอดจะไปนั้น เรียกได้เลยว่าเป็นแลนด์มาร์กในตัวเมืองเชียงใหม่ที่ใครหลายคนรู้จักเป็นอย่างดี สายเซลฟี่ไม่พลาดอย่างแน่นอน ลองเดาดูกันนะคะว่าคือที่ไหน ?
เฉลย
“ประตูท่าแพ”
นั่นเอง เดากันถูกมั้ยเอ่ย ? เรียกได้ว่าใครมาเมืองเชียงใหม่ก็ต้องมาถ่านรูปกับประตูท่าแพ
หนึ่งจุดเช็คอินไฮไลต์ประจำจังหวัด
ประตูเมืองโบราณที่มีลักษณะเป็นอิฐแดงส้มนำมาเรียงซ้อนกัน ซึ่งในปัจจุบันเป็นประตูเมืองเพียงแห่งเดียวที่มีบานประตู ทางเทศบาลนครเชียงใหม่และกรมศิลปากร ได้ร่วมกันสร้างขึ้นมาใหม่ เมื่อปี พ.ศ.2528
กลายเป็นโลเคชั่นชิค ๆ คูล ๆ ที่เหล่าสาวกไอจีมาครีเอทท่าสวย ๆ งาม ๆ
กันมากมาย และบริเวณรอบ ๆ ก็ยังมีฝูงนกพิราบมาวนเวียนกันอยู่เป็นจำนวนมาก ให้เราได้ให้อาหารและแชะรูปคู่กับฝูงนกกันด้วยค่ะ
●
W8 x Viangpha Cafe
หลังจากถ่ายรูปซะจนคุ้มแล้ว แอดขอมาแวะร้านคาเฟ่สายกรียนสุดฮิปในตัวเมืองกันคะ กับร้าน
“W8 x Viangpha Cafe”
คาเฟ่ฟอกปอดกลางเมือง ตัวอาคารออกแบบร่วมสมัย มีทั้งหมด 4 ชั้นด้วยกัน บรรยากาศดี ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์สไตล์วินเทจเท่ ๆ ผสมผสานกับต้นไม้เขียว ๆ ได้อย่างลงตัว ทำให้ลูกค้าที่มาใช้บริการรู้สึกพักผ่อนได้อย่างเต็มที่
สำหรับอาหารและเครื่องดื่ม มีให้คุณเลือกอย่างหลากหลาย โดยเครื่องดื่มที่นี่จะเน้น
กาแฟและม็อกเทลค่ะ กาแฟจะมีความเข้มข้นเป็นพิเศษ
ทานคู่กับขนมปังเข้ากันเป็นอย่างดี ส่วนสาว ๆ ลองสั่งเมนูม็อกเทลมาดื่มกันเพลิน ๆ ได้กลิ่นความหอมหวานจากผลไม้และความเปรี้ยวซ่าจากโซดา เอาใจสาวหวานโดยเฉพาะกันเลย
ส่วนเมนูอาหาร ที่นี่มีทั้งอาหารไทยและอาหารนานาชาติ ซึ่งแอดจะขอรองท้องกันด้วยเมนูขนมไทยหาทานยากอย่าง
“ช่อม่วง”
ที่ทางร้านมีให้เราได้ทาน เนื้อแป้งมีความเหนียวนุ่มกำลังดี สอดไส้ทั้ง 3 รสชาติ ได้แก่ ไส้เค็ม หวาน และเผ็ดเล็กน้อย ทานคู่กับกระเทียมและพริกสด ต่อกันด้วย
“ปอเปี๊ยะ”
ทอดสีเหลืองทองสวยงาม กรอบนอกนุ่มใน อร่อยกลมกล่อม และสุดท้าย
“สลัด”
ที่ทำออกมาหน้าตาน่าทานมาก ครีมสลัดรสชาติดี ผักสดและกรอบ โดยรวมถือว่ารสชาติอร่อยถูกปากใช้ได้
●
ถนนช้างม่อย
หากใครที่เคยเห็นรูปถ่ายเครื่องหวานสานกันเยอะ ๆ จนกลายเป็นโลเคชั่นถ่ายรูปเก๋ ๆ อีกแห่งของเมืองเชียงใหม่ อยากตามมาเช็คอินกันแล้วล่ะก็…..ให้มากันที่
“ถนนช้างม่อย”
ค่ะ โดยถนนเส้นนี้ เป็นย่านหวายสาน งานจักสานมากมาย มีทั้งกระเป๋า หมวก รองเท้า ตะกร้า เสื่อ ที่รองแก้ว เก้าอี้ ชั้นวางของ เรียกได้ว่าละลานตากันเต็มไปหมด ถูกใจผู้ที่ชื่นชอบงานจักสานให้ได้มาช้อปปิ้งกัน ราคาไม่แพงอีกด้วย
สำหรับสายถ่ายรูปก็ไม่มีผิดหวัง ด้วยความที่แต่ละร้านค้าจะนำของจักสานมาแขวนไว้อย่างมากมาย และหลากหลายอย่าง ทำให้เมื่อถ่ายรูปออกมาแล้วดูเก๋สุด ๆ ไปเลย ซื้อจักสานเป็นพร๊อพสักใบ ถ่ายรูปได้จนไอจีกระหน่ำกันเลยล่ะ
●
ข้าวซอยนิมมาน
แอดมีแพลนต่อว่าจะไปสักการะพระธาตุดอยสุเทพ ปูชนียสถานศักดิ์และสำคัญประจำเมืองเชียงใหม่ แต่ในระหว่างทางขับรถไปนั้น เจอร้านข้าวซอยชื่อดังแห่งหนึ่ง แอดที่จะแวะไม่ได้ มาเชียงใหม่ทั้งที ก็ต้องกินข้าวซอยให้ได้ใช่มั้ยล่ะคะ มาเติมอาหารให้ท้องกว้าง ๆ ของเรากันที่
“ข้าวซอยนิมมาน”
ร้านอาหารเหนือรสชาติต้นตำรับที่ทั้งคนไทยและชาวต่างชาติต่างยกนิ้วให้ การันตีด้วยรางวัลมิชลินไกด์อีกด้วยนะเออ
แอดสั่งเมนู
“ข้าวซอยไก่”
มาทาน ซึ่งเป็นเมนูขึ้นชื่อของร้าน โดยเส้นข้าวซอยของร้านนี้จะนิ่มกว่าร้านอื่น ใส่น่องไก่มาให้ชิ้นใหญ่ ๆ รสชาติอร่อยกลมกล่อมดีค่ะ ลำขนาดดด อีกทั้งคุณสามารถเครื่องเพิ่มได้เอง นอกจากนี้ ก็ยังมีอีกหลายเมนูไม่ควรพลาด ไม่ว่าจะเป็น ขนมจีนน้ำเงี้ยว แกงฮังเล น้ำพริกเห็ดหล่ม ยำจิ้นไก่ แกงขนุน ห่อนึ่ง น้ำพริกเห็ดฟาง ลาบหมูคั่ว แหนมหมกไข่ และน้ำพริกอีกหลากหลายชนิด หากใครมีโอกาสได้มาเที่ยวเชียงใหม่ ควรมาลองข้าวซอยนิมนามแห่งนี้กันให้ได้เลยนะคะ
●
พระธาตุดอยสุเทพ
ถึงเวลาเช็คอินเข้าโรงแรมแล้ว แอดขอแวะมาเช็คอินกันก่อน (จะรีวิวโรงแรมกันหลังจากพระธาตุดอยสุเทพนะคะ) จากนั้น หมุนพวงมาลัยกันมายังปูชนียสถานคู่เมืองเชียงใหม่มาอย่างช้านาน สำหรับ
“พระธาตุดอยสุเทพ”
โดยทางขึ้นไปยังวัดด้านบนนั้นจะต้องเดินผ่านบันไดนาคกว่า 300 ขั้นเลยค่ะ ซึ่งแอดนั้นคงจะสู้ไม่ไหว ขอนั่งรถรางไฟฟ้าขึ้นก็แล้วกันนะ
พอมาถึงด้านบนแล้ว อากาศร้อนนิดหน่อยแต่ไม่มากค่ะ องค์พระธาตุมีความสวยงามเป็นอย่างมากสมคำร่ำลือ
สักการะขอพร เพื่อความเป็นสิริมงคลกันในชีวิต
สะสมเติมบุญเผื่อชีวิตจะได้ปังกว่าเดิม และถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึก ก่อนกลับ แวะไปยังจุดชมวิวด้านบน ที่เราจะเห็นวิวมุมสูงของเมืองเชียงใหม่ทั้งหมดแบบ 360 องศากันเลยทีเดียว แอดประทับใจเป็นอย่างมาก
●
The Core Hotel, Chiangmai
เดินทางมาถึงช่วงเวลาบ่ายคล้อยกันแล้ว แอดก็ขอเข้าสู่ที่พักกันเลยแล้วกันค่ะ วันนี้เราก็ถือว่าได้เที่ยวกันหลายที่เลย สำหรับคืนนี้ แอดมานอนหลับฝันดีกันที่
“The Core St. by Stay Now Hotel, Chiangmai”
โรงแรมสุดน่ารัก เหมาะกับสาวคิ้ว ๆ ตั้งอยู่บนทำเลทอง ริมถนนห้วยแก้วตรงข้ามกับมหาวิทยาลัยเชียงใหม่กันเลยค่ะ โดยมีลักษณะเป็นอาคารสีขาวทั่วทั้งหลัง มินิมอลสไตล์ ผสมกับกลิ่นอายของธรรมชาติ ด้วยการนำวัสดุที่ทำจากไม้และต้นไม้สีเขียวมากมายมาตกแต่งไว้ด้วย
มีห้องพักให้เลือกถึง 26 ห้อง แบ่งเป็น 3 แบบ ได้แก่ Deluxe Double / Deluxe Twin Triple Room และFamily Room ไม่ว่าจะพักเดี่ยว พักคู่ หรือพักกับครอบครัว แก๊งค์เพื่อน ก็สามารถรับรองได้หมด ภายในห้องพัก เน้นคุมโทนน้ำเงิน-ขาว ซึ่งได้ไอเดียมาจากผ้ามัดย้อมนั้นเอง ครีเอทแบบสุด ๆ ผนังห้องวาดลวดลายน่ารัก ๆ ประดับไว้ เอาใจผู้หญิงเป็นพิเศษ พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน แถมมุมถ่ายรูปฟรีมากมายภายในพื้นที่ของโรงแรม
ราคาห้องพักเริ่มต้นแค่พันกว่าบาทเท่านั้นเอง มากับเพื่อนแชร์ค่าห้องกันยิ่งถูกลงอีกนะ เป็น 1 โรงแรมราคาสุดคุ้มที่แอดอยากจะแนะนำให้ลองมาพักกันนะคะ
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
FB
: https://www.facebook.com/thecorehotelchiangmai/
โทร
. 053-218-163
Website
: http://www.thecorehotelchiangmai.com/
•·
Day 2
·
•
ลืมตาตื่นขึ้นมาในเช้าวันที่ 2 ซึ่งวันนี้แอดก็มาพร้อมคอนเซปต์เจ้าหญิงในทุ่งดอกไม้ แน่นอนว่า จังหวัดเชียงใหม่มีทุ่งดอกไม้สวยงามมากมายดั่งกับเสาไฟฟ้ากันเลยทีเดียว แอดจึงไม่พลาดพาทุกคุณไปเดินเล่นและถ่ายรูปกันซะหน่อย
●
สุรชัยฟาร์ม
สำหรับทุ่งดอกไม้ที่แรก แอดขอประเดิมกันที่
“สุรชัยฟาร์ม สวนเชียงใหม่”
ทุ่งดอกมากาเร็ตที่มีดาเมจรุนแรงต่อใจสาว ๆ ซะเหลือเกิน ด้วย
ความพิเศษของดอกมากาเร็ตแห่งนี้ ที่จะบานเป็นสายรุ้งขนานกันไปตลอดทั้งแปลง
ซึ่งเป็นที่แรกและที่เดียวในเมืองเชียงใหม่กันเลยนะ
ทุ่งดอกมากาเร็ตที่นี่จะได้รับการคุมโทนสีเป็นพิเศษ
เมื่อเวลาผลิดอกบานแล้วจะทำให้เกิดเป็นสีสันต่าง ๆ
ทั้งสีม่วง เขียว เหลือง แดง น้ำเงิน
ขนานเรียงกันไปตลอดทั้งแนว เมื่อถ่ายรูปมุมสูงดูแล้วจะคล้ายกับสายรุ้งแห่งดอกมากาเร็ตกันเลยค่ะ ท่ามกลางสภาพแวดล้อมสวยงามนี้ หากคุณได้เข้ามาอยู่ก็คงจะมีความสุขเป็นพิเศษ สวรรค์ของหญิงสาวและผู้ที่ชอบการถ่ายภาพให้แวะมากดชัตเตอร์กันจนนับไม่ทัน
มาที่นี่ไม่ต้องจองคิวให้เสียเวลา สามารถWalk inเข้ามากันได้เลยค่ะ เสียค่าเข้าชมสวนเพียงแค่ 50 บาทเท่านั้น เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 07.00-18.00 น. ทางสวนมีพร๊อพและมุมถ่ายรูปไว้บริการฟรี อย่าลืมหยิบชุดที่สวยที่สุดกันมาล่ะ
พิกัด
:
https://is.gd/mLax1r
FB
:
สุรชัยฟาร์ม สวนเชียงใหม่
โทร
. 083-865-5087
●
I Love Flower Farm
ถัดมา กับอีก 1 ทุ่งดอกไม้ที่เรียกได้เลยว่า นาทีนี้ไม่มีใครไม่รู้จัก ยอดฮิตประจำเมืองเชียงใหม่ สำหรับ
“I Love Flower Farm”
สวนดอกไม้ขนาด 8 ไร่ ที่อบอวลไปด้วยเหล่าดอกไม้หลากหลายสีสัน ไม่ว่าจะเป็น
ดอกคัตเตอร์สีขาวละมุน ดอกลาเวนเดอร์สีม่วงสดใส และดอกมาร์กาเร็ตสีม่วง เนรมิตพื้นที่แห่งนี้ให้กลายเป็นวันเดอร์แลนด์
ใครที่เคยวาดฝันไว้ว่า อยากจะเดินเล่นท่ามกลางทุ่งดอกไม้ละลานตา มาที่นี่คุณจะไม่ผิดหวัง เพียงแค่สวมชุดเจ้าหญิงเดินเข้ามาท่ามกลางหมู่มวลดอกไม้ผลิดอกบานสะพรั่ง คลอเคล้ากับลมหนาวอ่อน ๆ ที่โชยมาให้รู้สึกสบาย สร้างบรรยากาศที่สุดแสนจะโรแมนติกยิ่งขึ้น พร้อมกับถ่ายภาพอันแสนสวยนี้และน่าประทับใจแห่งนี้ โพสต์ลงโชเซียลให้เพื่อน ๆ ได้อิจฉากันเล่น ๆ
มาที่นี่ต้องจองคิวกันเสียหน่อย เพราะเป็นสถานที่ยอดฮิตจริง ๆ เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00 – 18.00 น. เสียค่าเข้าชมสวน 90 บาท (ค่าเข้าชม+ค่ารถ) แถมฟรี Welcome set 1 ชุด เป็นน้ำสมุนไพร + ขนมพื้นบ้านแสนอร่อย พร๊อพฟรี บอกเลยว่าคุ้มที่สุด
พิกัด
:
https://is.gd/oogizY
FB
:
https://www.facebook.com/I-love-flower-Farm-267775026710971/
●
Chic39 Garden Cafe and Restaurant Mae rim
ถ่ายรูปกันซะจนลืมเวลาไปเลย ท้องเริ่มร้องหน่อย ๆ เป็นสัญญาณเตือนแห่งความหิวเข้ามาเยือน คงจะทนต่อไปไม่ไหว แอดจึงมาฝากท้องกับร้านอาหารชิค ๆ แถวนี้ตามชื่อร้าน นั่นคือ
“Chic39”
ร้านอาหารที่ตกแต่งสไตล์โมเดิลลอฟ รูปทรงร้านดูเก๋และโดดเด่นไม่ซ้ำใคร
ตั้งอยู่ท่ามกลางวิวของท้องทุ่งแสนสบายตา
ภายในร้านเน้นโทนสีขาวตัดกับแมกไม้นานาชนิดที่นำมาตกแต่ง แฝงความใกล้ชิดกับธรรมชาติมากยิ่งขึ้น แต่ในขณะเดียวกันก็ยังให้ความรู้สึกดูหรูหราอีกด้วย
ร้านนี้เหมาะกับเป็นมุมพักผ่อนชิลล์ ๆ
นั่งจิบกาแฟชมวิวท้องทุ่งกันเพลิน ๆ
ส่วนอาหารจะเน้นอาหารนานาชาติ เมนูพิซซ่าจะเป็นเมนูขึ้นชื่อของทางร้าน เป็นสไตล์อิตาเลี่ยน แป้งบางกรอบ ราดซอสชุ่มฉ่ำ รสชาติอร่อย ซี่โครงซอสบาบีคิวเนื้อนุ่มเปื่อย หมักไว้อย่างดีเลยทีเดียว และสาว ๆ สายเบเกอรี่ ทางร้านก็มีทั้งเค้ก โทสต์ บิงซู ไอศกรีม และเครื่องดื่มหลากเมนูไว้บริการในราคาสมเหตุสมผล
●
ปางช้างแม่สา
ก่อนเดินทางกลับไปเผชิญความจริง (ไม่อยากกลับเลย) แอดขอพาทุกคนไปพบปะกับเจ้าสัตว์ตัวใหญ่แสนเชื่อง ที่อยู่คู่แผ่นดินไทยมาอย่างช้านานกันที่
“ปางช้างแม่สา”
เป็นหมู่บ้านช้างที่ใหญ่ที่สุดในภาคเหนือของประเทศไทย ก่อตั้งขึ้นเพื่อเป็นการอนุรักษ์ช้างไทยให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีสืบไป
ภายใน คุณจะได้
พบกับความฉลาดและความสามารถของน้องช้างสุดน่ารัก
มากมาย ซึ่งได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี เช่น
ช้างเดินพาเหรด ช้างเล่นดนตรี ฟุตบอลช้าง ช้างวาดรูป และการแสดงอื่นๆ
อีกมากมาย ประกอบกับกิจกรรมน่ารัก ๆ อย่าง ป้อนอาหารช้าง ป้อนนมช้าง อาบน้ำช้าง ท่ามกลางบรรยากาศแห่งธรรมชาติที่โอบล้อมไปด้วยป่าเขาและต้นไม้น้อยใหญ่มากมาย บรรยากาศสบาย ๆ ชิลล์ ๆ เพลิดเพลินกันจนไม่อยากจะไปที่ไหนเลย
นับตั้งแต่ประสบปัญหาสถานการณ์โควิด-19 ปางช้างแม่สาต้องการความช่วยเหลือจากทุกท่านเป็นอย่างมาก เพื่อน้ำมาซื้ออาหารให้กับเหล่าน้องช้างนี้ให้ได้มีอาหารไว้กินกัน หากคุณได้มีโอกาสได้มาหาน้องช้างกันแล้ว ก็อยากจะขอเชิญชวนให้ทุกท่านบริจาคเงินกันคนละเล็กคนละน้อย เพื่อเป็นการต่อลมหายใจให้เจ้าช้างได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีกันและอยู่ให้เราได้เห็นความน่ารักกันไปตลอดเลยนะคะ
จบกันไปแล้ว สำหรับแพลนเที่ยวเชียงใหม่ในวันหยุด เห็นกันแล้วใช่มั้ยคะว่า ถึงแม้จะมีเวลาไม่มากแค่เพียง 2 วัน แต่คุณก็สามารถเที่ยวเชียงใหม่กันได้แบบสนุก หากใครที่กำลังวางแพลนหรือกำลังเตรียมตัวมาเที่ยวเชียงใหม่กันอยู่ แอดก็ขอมอบทริปนี้กันไว้ในอ้อมอกอ้อมใจลูกเพจทุก ๆ ท่านเลยนะคะ หนาวนี้ไปชายเมี่ยง เอ้ย เชียงใหม่กันด้วยนะ
Tags
Chiangmai
Chic39
I Love Flower Farm
The Core Hotel
W8 x Viangpha Café
ข้าวซอยนิมมาน
ถนนช้างม่อย
ที่เที่ยวเชียงใหม่
ประตูท่าแพ
ปางช้าง
ปางแม่สา
พระธาตุดอยสุเทพ
เชียงใหม่
เที่ยวเชียงใหม่
Share:
Previous Article
“วัดโฝวกวงซัน” เที่ยวไต้หวันในกรุงเทพฯ
Next Article
10 ที่เที่ยวเมืองโคราช ไปแล้วไม่ควรพลาด
TRAViZGO
ทราวิซโก ที่พึ่งทางเที่ยว แอปเดียวครบจริง
Related articles
Lifestyle
,
Review
,
Travel
หนีร้อน…มาพบรัก “บ้านป่าบงเปียง”
June 4, 2020
Travel
“ไทยอิแลแฟนท์โฮม” จังหวัดเชียงใหม่
August 13, 2020
Travel
5 ที่เที่ยวลุยแดดท้าลมร้อน
April 11, 2023
Travel
“Hinoki Land” แดนญี่ปุ๊น.. ญี่ปุ่น @เชียงใหม่
December 30, 2020
You Might Like This
Lifestyle
เคล็ด (ไม่) ลับ คว้าตั๋วถูกมาไว้ในครอบครอง
April 3, 2019
Lifestyle
ปักหมุด แนะนำ 10 งานลอยกระทงทั่วไทย 2563
October 10, 2020
Travel
เที่ยวพม่าเมืองแห่งเจดีย์
July 18, 2023