ล่าแสงเหนือปลายปี ไปที่ไหนดี?
- นอร์เวย์ (Norway)การตามล่าแสงเหนือของที่นี่ไม่ธรรมดา เพราะต้องออกไปตามล่ากันบนเรือ! ที่นอร์เวย์สามารถล่องเรือเพื่อชมแสงเหนือได้ ซึ่งกิมมิคแบบนี้หาได้ยากในประเทศอื่น นอกจากความงามของแสงเหนือด้านบน ผืนน้ำบริเวณอื่นๆที่กลายเป็นน้ำแข็งก็สวยไม่แพ้กัน เรียกว่า ซื้อ 1 ได้ถึง 2 จริงๆ
– ช่วงเวลาที่แนะนำให้ไปล่าแสงเหนือ
– เดือนกันยายน – มีนาคมสถานที่แนะนำให้ไปล่าแสงเหนือ
– เมือง Tromso
– เมือง Andenes
– Svalbard
– Alta
– Finnmark
- อเมริกา (อลาสก้า) (America)ออโรร่าของอลาสก้าอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล แค่เพียงออกไปนอกเมือง นับเป็นอีกจุดนึงที่ตามหาแสงเหนือได้ง่าย และได้รับความนิยมสูง
– ช่วงเวลาที่แนะนำให้ไปล่าแสงเหนือ
– เดือนกันยายน – เมษายนสถานที่แนะนำให้ไปล่าแสงเหนือ
– เมืองแฟร์แบงค์ (Fairbanks)
– Anchorage
– Denali
– The Yukon
- ไอซ์แลนด์ (Iceland)ไอซ์แลนด์สามารถมองเห็นออโรร่าได้แทบทุกที่ในประเทศ! ชมแสงเหนือที่นี่จะได้บรรยากาศแบบมีภูเขาเป็นฉากหลัง ทำให้ได้ภาพที่สวยงามแบบสงบและมั่นคง ช่างภาพสาย Landscape ถูกใจสิ่งนี้อย่างแน่นอน
– ช่วงเวลาที่แนะนำให้ไปล่าแสงเหนือ
– เดือนตุลาคม – มีนาคมสถานที่แนะนำให้ไปล่าแสงเหนือ
– กรุงเรคจาวิค (Reykjavik)
– อุทยานแห่งชาติ Thingvellir (Thingvellir National Park)
– Kirkjufell
- ฟินแลนด์ (Finland)จุดชมออโรร่าของฟินแลนด์ ไม่จำเป็นต้องออกจากที่พัก! หลายๆโรงแรมแถบนี้ดีไซน์ห้องเป็นโดมกระจกใส ทำให้คุณสามารถชมธรรมชาติด้านนอกได้อย่างจุใจ และไม่ต้องกลัวว่าระหว่างที่คุณหลับแล้วออโรร่าปรากฎออกมาจะทำอย่างไร เพราะที่นี่จะเปิดสัญญาณรอบโรงแรมทันทีที่เแสงออโรร่าปรากฏ ถ้าได้มานอนมองออโรร่ายามค่ำคืน ท่ามกลางหมู่ดาวระยิบระยับ จะฟินขนาดไหนกันนะ
– ช่วงเวลาที่แนะนำให้ไปล่าแสงเหนือ
– ปลายเดือนสิงหาคม – เมษายนสถานที่แนะนำให้ไปล่าแสงเหนือ
– Hotel Aurora
– Luosto
– Nellim
– Utsjoki
– Ivalo
– Kakslauttanen
- กรีนแลนด์ (Greenland)นอกจากบ้านเรือนสีสันสดใสและสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆแล้ว กรีนแลนด์ยังสามารถตามล่าแสงเหนือได้อีกด้วย ที่นี่แสงเหนือจะปกคลุมแทบทั้งประเทศ เป็นอีก 1 ประเทศที่ตามหาแสงเหนือได้อย่างง่ายดายครับ
– ช่วงเวลาที่แนะนำให้ไปล่าแสงเหนือ
– เดือนมกราคม – กุมภาพันธ์สถานที่แนะนำให้ไปล่าแสงเหนือ
– Lake Aurora
– Kulusuk
– Ammassalik
- สวีเดน (Sweden)บริเวณทะเลสาบ Torneträsk (Torneträsk lake) ใกล้กับอุทยานแห่งชาติ อาบิสโก้ (Abisko) เป็นจุดที่เห็นแสงออโรร่าได้ชัดเจนที่สุดในวันฟ้าโปร่ง หากคุณอยากเห็นแสงเหนือ โดยมีต้นสนเป็นฉากด้านล่าง ที่นี่แหละ ใช่เลย
– ช่วงเวลาที่แนะนำให้ไปล่าแสงเหนือ
– เดือนกันยายน – มีนาคมสถานที่แนะนำให้ไปล่าแสงเหนือ
– อุทยานแห่งชาติ อาบิสโก้ (Abisko National Park)
– เมืองคิรูน่า (Kiruna)
– ออโรร่าสกายสเตชั่น (Aurora Sky Station)
- แคนาดา (Canada)หากเปรียบเทียบเป็นคอนเสิร์ต การมาชมแสงเหนือที่แคนาดาก็เหมือนซื้อบัตร VIP มาดูเลยทีเดียว เพราะสามารถมองเห็นออโรร่าทอดไกลถึงชายแดนอเมริกา หากใครชอบความคุ้มค่า แคนาดาคือคำตอบ!
– ช่วงเวลาที่แนะนำให้ไปล่าแสงเหนือ
– เดือนมกราคม – กลางมีนาคมสถานที่แนะนำให้ไปล่าแสงเหนือ
– เมืองออนทาริโอ (Ontario)
– รัฐแมนิโทบา (Manitoba)
– เมืองทุนดร้า (Tundra)
– ทะเลสาบพริสไทน์ (Pristine Lake)
- รัสเซีย (Russia)ความพิเศษของที่รัสเซีย คือ คุณจะได้สัมผัสประสบการณ์หนาวสุดขั้ว อุณหภูมิเคยติดลบถึง 30 องศาเซลเซียสเลยครับนอกจากนี้ คนไทยยังไม่ต้องขอวีซ่าและอยู่ที่รัสเซียได้ถึง 30 วัน หากวันหยุดพร้อมแล้ว…ก็ลุยเลยครับ!
– ช่วงเวลาที่แนะนำให้ไปล่าแสงเหนือ
– เดือนกุมภาพันธ์สถานที่แนะนำให้ไปล่าแสงเหนือ
– เมืองมูรมานสก์ (Murmansk)
– Kola Peninsula
- สก็อตแลนด์ (Scotland)เมื่ออยู่ในความมืด แม้จะเป็นเพียงแค่แสงจากเทียนไข ก็ส่องสว่างชัดเจนกว่าที่เคย ที่สก็อตแลนด์ โดยปกติแล้วท้องฟ้าจะมีเมฆหมอก และ พายุ ทำให้สภาพอากาศของที่นี่ ไม่เหมาะที่จะออกมายืนมองท้องฟ้าอย่างโรแมนติก เมื่อไหร่ก็ตามในยามฤดูหนาวที่ฟ้าเปิด ออโรร่าของที่นี่จะสว่างไสวชัดเจนท่ามกลางความมืดของรัตติกาล ใครที่ชอบความท้าทาย ลองมาตามล่าแสงเหนือที่สก็อตแลนด์กันดูนะครับ
– ช่วงเวลาที่แนะนำให้ไปล่าแสงเหนือ
– เดือนธันวาคม – กุมภาพันธ์สถานที่แนะนำให้ไปล่าแสงเหนือ
– เมืองแอเบอร์ดีน (Aberdeen)
– เกาะ Isle of skye
– Northern Highlands
– ประภาคาร Dunnet Head
- เดนมาร์ค (Denmark)เกาะ Faroe แห่งเดนมาร์ค ก็มีโอกาสที่จะได้พบกับออโรร่าสว่างไสวชัดเจนอีกแห่งนึงครับ ใครชอบบรรยากาศและวัฒนธรรมของประเทศนี้ เซฟสถานที่ด้านล่างไว้รัวๆเลยครับผม
– ช่วงเวลาที่แนะนำให้ไปล่าแสงเหนือ
– กลางเดือนสิงหาคม – ปลายเมษายนสถานที่แนะนำให้ไปล่าแสงเหนือ
– หมู่เกาะ Faroe