?มีคนเคยกล่าวไว้นะคะว่า หากไม่มีความมืด⚫ เราคงจะไม่เห็นแสงสว่าง? และแสงสว่างจะฉายชัดที่สุด เมื่ออยู่ท่ามกลางความมืด ดั่งเช่นที่  วัดสิรินธรวรารามภูพร้าว  ที่เมื่อเวลาพลบค่ำมาเยือน ความสวยงามของวัดก็จะส่องประกายออกมา☺️ ?“ วัดสิรินธรวรารามภูพร้าว ” ตั้งอยู่ที่ตำบลช่องเม็ก อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี เดิมทีพื้นที่แห่งนี้เป็นหน้าผารกร้าง ไม่มีแหล่งน้ำ ทำให้ไม่มีผู้คนอาศัยอยู่ จนกระทั่ง?️ปีพ.ศ. ๒๔๙๗ ?“พระอาจารย์บุญมาก ฐิติปัญโญ” พระอาจารย์ชาวลาวท่านได้เดินทางมาเผยแผ่พระพุทธศาสนายังฝั่งไทย?? และได้ปักกลดเป็นเวลา ๑ ปี ต่อมา ปี พ.ศ. ๒๕๑๖ ท่านได้ขอบิณฑบาตพื้นที่สร้างวัดจากทางหน่วยทหารและทางราชการ ทางอำเภอจึงให้ตั้งชื่อวัดว่า “วัดสิรินธรวราราม” หลังจากนั้นท่านต้องเดินทางกลับไปยังฝั่งลาว วัดจึงถูกปล่อยให้ทิ้งร้างไป? เมื่อครั้น ?️ปี พ.ศ. ๒๕๔๒ “พระครูกมล” ลูกศิษย์ของท่านได้พบวัดนี้อีกครั้งและได้บูรณะให้กลับมาดังเดิม เมื่อพระครูกมลละสังขารไป “พระครูปัญญา” ก็เข้ามารับตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดแทนและสานต่อการสร้างวัดแห่งนี้จวบจนปัจจุบัน ?ความวิจิตรตระการตาของวัดสิรินธรฯ คือ “ต้นกัลปพฤกษ์” ภาพจิตรกรรม?ที่อยู่ด้านหลังพระอุโบสถจะเปล่งประกายคู่แสงจันทร์ยามค่ำคืน เป็นผลผลิตทางงานพุทธศิลป์ โดย “ช่างคณากร ปริญญาปุณโณ” ได้รับแรงบันดาลใจมาจากต้นไม้แห่งชีวิต? ในภาพยนตร์เรื่องอวตาร ท่านจึงนำสารเรืองแสงที่เรียกว่า ฟอสเฟอร์ (Phosphor) ทาทับลงบนต้นกัลปพฤกษ์ ทำให้ในยามที่พระอาทิตย์ส่องแสง☀️ ต้นไม้นี้จะดูดซับแสงไว้ เมื่อยามพระอาทิตย์ลาลับขอบฟ้าไป ต้นกัลปพฤกษ์จะเรืองแสงสว่างเรืองรองงดงาม✨ ช่วงเวลาที่เหมาะในการรับชมความสวยงามนี้อยู่ที่ประมาณ 18.00-20.00 น. ? นอกเหนือจากความตระการตานี้แล้ว ตัวพระอุโบสถก็บรรจงสร้างขึ้นอย่างประณีตตามศิลปะเชียงแสน ...

แม่ฮ่องสอน นอกจากจะเป็นดินแดนแห่งทะเลหมอก☁️ ยังเป็นที่ตั้งของ “ลีไวน์ รักไทย” หมู่บ้านสไตล์จีนยูนนาน ?ที่มาหลบซ่อนตัวอยู่ในดินแดนทะเลหมอกแห่งนี้ ซึ่งที่นี่ นอกจากจะเป็นที่พักอันเงียบสงบสำหรับนักท่องเที่ยวแล้ว ยังสามารถตื่นมาชมพระอาทิตย์ขึ้นกลางทะเลหมอกในยามเช้า ?️   ?ลิ้มลองความอร่อยจากอาหารสไตล์จีนยูนนานได้จากร้านอาหารใกล้เคียงในบริเวณนี้ ทดลอง “เก็บชา”? ที่ปลูกกันอย่างสดๆ และด้วยความขึ้นชื่อของชาและผลไม้เมืองหนาวของที่นี่เอง ทำให้ของฝากโดยส่วนมากของ ลีไวน์ รักไทย จะเป็นผลิตภัณฑ์จากชา และ ไวน์? ที่หลากหลายมากๆ ไม่ว่าจะเป็น ชาเขียว ชาอู่หลง หรือ ไวน์ลูกหม่อน ไวน์มะขามป้อม   สำหรับการมาท่องเที่ยวลีไวน์ รักไทย สามารถมาท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี เนื่องจากความสูงเหนือระดับน้ำทะเลกว่า 1,700 เมตร ทำให้อากาศบริเวณนี้ค่อนข้าวเย็นตลอดทั้งปี❄️ และเย็นเป็นพิเศษยิ่งขึ้นในช่วงฤดูหนาว ?โดยท่านสามารถเดินทางมาที่นี่ได้ด้วยการ ใช้ทางหลวงหมายเลข 1095 ออกเดินทางจากตัวเมืองแม่ฮ่องสอนมาประมาณ 15 กิโลเมตร จะเจอป้ายบอกทางไปภูโคลน หรือ ลีไวน์ รักไทย (ทั้ง 2 แห่งเดินทางด้วยเส้นทางเดียวกัน) ให้เลี้ยวซ้าย ขับไปเรื่อยๆผ่านภูโคลน น้ำตกผ่าเสื่อ พระตำหนักปางตอง ในส่วนนี้ขอให้ทุกท่าน ⚠️“ระวังโค้งหักศอกคดเคี้ยวหลายแห่ง”⚠️ เมื่อผ่านเส้นทางนี้ไปได้จะเจอ ลีไวน์ ...

หากลองจินตนาการว่า คุณได้เข้าไปอยู่ในหมู่บ้านแสนสวยงาม ? ท่ามกลางธรรมชาติ ? บรรยากาศร่มรื่น สุขสงบ และสุดแสนโรแมนติก มันจะดีขนาดไหนกันนะ ? แต่ความใฝ่ฝันนี้ ไม่ได้มีอยู่แค่ในความคิดเท่านั้น เพราะทราวิสโกจะพาคุณไปชะโงกดู 5 หมู่บ้าน ที่ทำให้โลกหยุดหมุน ? แต่ละที่นั้นสวยงามราวกับหลุดออกมาจาก โลกแห่งนิยายกันเลยค่ะ ✨ ดีต่อใจทั้งนั้น ไปชมพร้อม ๆ กันเลย ? Hallstatt, Austria “หมู่บ้านฮัลล์ทัทท์” เป็นหมู่บ้านเก่าแก่และมีความสวยงามมาก ได้รับการขนานนามว่า “เป็นหมู่บ้านริมทะเลสาบที่สวยที่สุดในโลก” ? ด้วยทัศนียภาพอันแสนงดงาม วิวจากทะเลสาบฮัลล์สตัทเทอร์ (Hallstatter See) ? สีน้ำเงินเป็นจุดเด่นที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงไป อาคารบ้านเรือนเล็ก ๆ น่ารัก ๆ โอบล้อมด้วยเทือกเขาหิมะสูงตระหง่าน บรรยากาศอันสงบที่ชวนหลงใหล ? เป็นที่ประทับใจนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกที่ได้มาเยือน จนที่นี่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็น “มรดกโลกทางวัฒนธรรม” ✨ จากองค์การยูเนสโก เมื่อปี ค.ศ. 1997 ? Bergen, Norway “ความโรแมนติกท่ามกลางสายฝน” ☔ คงเป็นคำนิยามเมื่อเอ่ยถึง “เบอร์เก้น” เมืองหลวงอันดับ 2 ของประเทศนอร์เวย์ มีสถิติออกมาว่า ที่นี่จะมีฝนตกฉุกเฉลี่ย 300 กว่าวันตลอดทั้งปี ถึงแม้ว่าจะเป็นเมืองที่มากับฝน แต่ความสวยงามของหมู่บ้านแห่งนี้นั้น น่ารักมาก ๆ เลยล่ะค่ะ ? อาคารบ้านเรือนที่ทำจากไม้เก่าแก่หลากสี เรียกว่า “Bryggen (บริกเกน)” ? ซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์ของนอร์เวย์ ช่างแต่งเติมสีสันสดใสให้เมืองดูมีชีวิตชีวา ? ผสานกับวิวริมทะเล ? และโอบกอดด้วยขุนเขาน้อยใหญ่ถึง 7 ลูก จนได้รับสมญานามว่าเป็น ...

✨ความสวยงามของสถานที่ต่าง ๆ บนโลก ย่อมมีความแตกต่างกันออกไป บ้างก็สวยงามและมีความเก่าแก่ บ้างก็สวยงามเหนือจินตนาการ? หรือความสวยงามที่มาพร้อมกับความลึกลับในเวลาเดียวกัน อย่างเช่นที่ The Dark Hedges อุโมงค์ต้นไม้แห่งความมืด? ที่แอดจะพาคุณไปสัมผัสความพิศวง (มั้ยนะ)❓ พร้อมแล้ว ไปกันเลย     ?อุโมงค์ต้นไม้ The Dark Hedges คือ แนวต้นบีช (beech tree) ที่ทอดขนานยาวกันไปบนถนนเบอเกจห์ (Bregagh Road) ในเมืองบอลลีมันนี (Ballymoney) ประเทศไอร์แลนด์เหนือ  ซึ่งผู้ที่ปลูกสร้างอุโมงค์ต้นบีชนี้ขึ้นมา คือ “James Stuart” เขาปลูกขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 18 เพื่อไว้ต้อนรับและสร้างความประทับใจแก่แขกผู้มาเยือนแมนชั่นหรูหราของเขา “Gracehill House” ที่อยู่สุดทางของถนน         ⏰ เมื่อเวลาผ่านไป ต้นบีชที่ James Stuart ปลูกขึ้นกว่า 150 ต้น ?ได้แตกกิ่งก้านสาขาออกมากมายและปลายยอดค่อย ๆ โน้มเข้าหากันดั่งอุโมงค์ต้นไม้ดูสวยงาม แต่ในขณะเดียวกัน ปลายยอดที่บดบังท้องฟ้าและแสงแดดที่ยากจะสาดส่องเข้ามา☀️ ทำให้เกิดความรู้สึกลึกลับซับซ่อนแก่หลายคนที่ได้เดินทางมาเยือนสถานที่แห่งนี้ ...

การเดินทางด้วย “รถไฟ” ? เป็นการเดินทางรูปแบบหนึ่งที่ได้รับความนิยมและตอบโจทย์นักท่องเที่ยวสายชิลล์ กินลม ชมวิวกันไปตามระยะทาง ทำให้คุณได้มองเห็นมุมต่าง ๆ ของโลก ? ระหว่างการเดินทาง ซึ่งน้อยคนนักมักจะได้มองเห็น   วันนี้ แอดมีรถไฟขบวน Bernina Express ? มาแนะนำกัน ขึ้นชื่อว่าเป็นรถไฟสายโรแมนติกที่สวยงามที่สุดในยุโรป ราวกับการเดินทางในโลกเทพนิยาย จะวิเศษขนาดไหน ไปนั่งรถไฟขบวนนี้พร้อมกันเลยนะ ?       ? “Bernina Express (เบอร์นิน่า เอ็กซ์เพลส)” เส้นทางรถไฟแห่งนี้ วิ่งจากเมือง Chur ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ไปสิ้นสุดที่เมือง Tirano ประเทศอิตาลี เปิดบริการมาตั้งแต่ปีค.ศ. 1910 อายุประมาณ 100 ปี เป็นเส้นทางรถไฟในฝันของนักท่องเที่ยวทั่วทุกมุมโลก ในแต่ละปีจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวมาใช้บริการนับหมื่นคนเลยทีเดียว ?     ภายในขบวนรถจะเป็นตู้แบบ “Panoramic” ? มีกระจกใสแผ่นกว้าง มองวิวได้รอบด้าน ที่นั่งจะเป็นแบบนั่งหันหน้าชนกัน มีโต๊ะอยู่ตรงกึ่งกลาง ข้างโต๊ะนั้นมีช่องสำหรับทิ้งขยะ และมีม่านบังแดดไฟฟ้าที่หักมุมไปตามกระจกรถไฟ เป็นการออกแบบสิ่งของภายในได้อย่างลงตัว ?     ตลอดระยะทางประมาณ 121 กิโลเมตร สิ่งที่คุณจะได้เก็บเกี่ยวผ่านม่านกระจกใสบาง ๆ ที่วิเศษหาสิ่งใดเปรียบได้ ? รถไฟลอดผ่านอุโมงค์กว่า 55 แห่ง ...

? สวัสดีลูกเพจที่น่ารักของแอด เคยมีแวบนึงที่ความคิดมันเข้ามาในหัวว่า “อยู่เมืองกรุงมันน่าเบื่อ อยากจะหนีไปใช้ชีวิตชิลล์ ๆ บ้าง” คงจะเป็นเหมือนกันบ้างใช่มั้ยล่ะคะ ? งั้นเราหนีเมืองกรุงกันสักวัน พักปอดกันที่ แหลมผักเบี้ย  ? แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติของจังหวัดเพชรบุรี บอกเลยว่า ผู้ที่อยากสัมผัสความบริสุทธิ์แห่งธรรมชาติ ที่นี่คือจุดหมายของคุณค่ะ ไปกันเลย รรมชาติ ที่นี่คือจุดหมายของคุณค่ะ ไปกันเลย ? ขับรถจากกรุงเทพฯไม่ถึง 2 ชั่วโมง ⏰ เพื่อมาพักผ่อนหย่อนใจกับสถานที่สีเขียวแห่งนี้? “ แหลมผักเบี้ย ” เป็นโครงการศึกษาวิจัยและพัฒนาสิ่งแวดล้อมแหลมผักเบี้ย อันเนื่องมาจากพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร? ที่ว่า “ปัญหาสำคัญ คือ เรื่องสิ่งแวดล้อม เรื่องน้ำเสียกับขยะ” ด้วยพระอัจฉริยภาพของพระองค์ท่าน ทรงใช้สายลม แสงแดด และธรรมชาติ บำบัดน้ำเสียและจัดการขยะในท้องถิ่น คืนพื้นที่สีเขียวสู่? ตำบลแหลมผักเบี้ย อำเภอบ้านแหลม จังหวัดเพชรบุรี … ?พักจากการหมุนพวงมาลัย มาจับแฮนด์จักรยาน ? ปั่นรับลมไปในโครงการฯ ถนนเป็นดินแทนที่จะเป็นคอนกรีตอย่างในเมือง สองข้างทางเต็มไปด้วยต้นไม้ใบหญ้าเขียวขจี? แทนที่จะเป็นห้างร้านต่าง ๆ มีบ่อบำบัดน้ำเสียขนาดใหญ่ หากโชคดีคุณอาจจะเจอน้องเฮีย ว่ายมาทักทายด้วยนะ 555 ...

?‍♀️เปิดประสบการณ์ความน่ารักเกินห้ามใจไหวเพราะทราวิสโกจะพาคุณไปว่ายน้ำท่ามกลางท้องทะเลสีฟ้าสดใส?กับบรรดาสัตว์ตัวอ้วนกลมสุดคิ้ว อู้ด ๆ อู้ด ๆ? ที่  Major Cay เกาะสวรรค์ของน้องหมู ไปชมความน่ารักพร้อม ๆ กันเลยค่ะ “เมเจอร์ เครย์ (Major Cay)” หรือที่รู้จักกันในชื่อ “เกาะหมู (Pig Island)”? เป็นเกาะเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ในเขตเอ็กซูมา (Exuma) ประเทศบาฮามาส ?? ประเทศหมู่เกาะที่มีมากถึง 3,000 เกาะ และได้มีเกาะ ๆ หนึ่ง ที่ หาดสวย น้ำใส?️ ใครหลายคนคงใฝ่ฝันอยากจะมาเล่นน้ำคลายร้อน☀️ แต่นั้นไม่ใช่จุดขายสำหรับเกาะแห่งนี้ เพราะสิ่งแรกที่คุณจะได้พบเจอ คือ ?น้องหมูตัวอ้วนพุงพุ้ยจำนวนมาก ที่มาคอยต้อนรับนักท่องเที่ยว ว่ายน้ำเล่นกันอย่างร่าเริงอยู่ในทะเล? ?️เกาะแห่งนี้ถูกค้นพบโดย ช่างภาพ Eric Cheng และ กัปตัน Jim Abernathy เมื่อปี ค.ศ. 2009 ในขณะที่พวกเค้ากำลังล่องเรือ ⛴️ ผ่านเกาะเมเจอร์ เครย์ ทั้งสองคนก็ได้เห็นบรรดา?เจ้าหมูว่ายน้ำเล่นอยู่ในทะเลกันอย่างสนุกสนาน? พวกเค้าได้เก็บภาพความน่ารักชวนแปลกใจนั้นเผยแพร่ในอินเทอร์เน็ต? ทำให้ผู้คนเริ่มรู้จักและเริ่มเดินทางมาเที่ยวกัน ...

หากพูดถึงการไปเที่ยวเวียดนาม?? นอกจาก ฮานอย โฮจิมินห์ หรือดานังแล้ว ยังมีอีกเมืองหนึ่งที่น่าสนใจไม่แพ้กัน ก็คือ #ซาปา นั่นเองค่ะ แลนด์มาร์กแห่งใหม่ที่ใครได้ไปก็ต้องตกหลุมรัก คงสงสัยกันอยู่ใช่มั้ยล่ะคะ งั้นแอดขอพาคุณไปเที่ยวซาปากันเลยยย ?       ?เมืองเล็ก ๆ กลางหุบเขาในจังหวัดลาวไก ตั้งอยู่ทางทิศเหนือ ห่างจากกรุงฮานอยประมาณ 350 กิโลเมตร มีชายแดนใกล้กันกับประเทศจีน ที่นี่ถูกจดไว้ในบัคเก็ตลิสต์อันดับต้น ๆ ของ?‍♂️นักท่องเที่ยวหลายคน ยิ่งถ้าคุณเป็นคนสายรักธรรมชาติอยู่แล้ว นี่คือจุดหมายที่ใฝ่ฝัน ด้วยลักษณะภูมิประเทศที่สวยงาม⛰️ ล้อมรอบด้วยภูเขาสูง มีทั้งทะเลสาบ น้ำตก และนาขั้นบันไดเป็นกิมมิคสุดว้าว ผสานกับสภาพภูมิอากาศที่หนาวเย็นตลอดทั้งปี เพราะอยู่สูงเหนือระดับน้ำทะเล ถึง 1,650เมตร ยิ่งในช่วงฤดูหนาว⛄ อากาศจะเย็นลงเป็นพิเศษ ปกคลุมด้วยหมอกทึบหนาตา จนได้รับการพูดถังกันว่าเป็น “เมืองในสายหมอก”☁️   ☝️ มาคนเดียวไม่ต้องกลัวหลง เพราะชาวเมืองซาปาเกือบทุกคนนั้น เค้าพูดภาษาอังกฤษกันได้นะคะ ไม่เว้นแม้แต่เด็กตัวน้อย ๆ ก็สามารถเป็นไกด์ให้คุณได้ พวกเค้านั้นเรียนรู้ภาษาจากนักท่องเที่ยวต่างประเทศ จนสามารถพูดได้อย่างชำนาญ ประกอบกับความน่ารักและเป็นกันเองทุกคนยิ้มแย้ม?และคอยต้อนรับนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี ทำให้ “ซาปา” เป็นเมืองที่ทำให้ตกหลุมรักลงได้อย่างง่ายดาย ?   ?สำหรับแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจในเมืองซาปานั้นก็มีมากมายให้คุณได้ชม ...

? การออกเดินทางของคุณ มีจุดเริ่มต้นมาจากการฟังเพลงหรือไม่ ❓ ไว้สถานการณ์ดีขึ้น เราจะออกเดินทางอีกครั้ง ….. สัญญานะ ?   1.คำตอบที่ใช่ – 25 Hours  “แสงดาว และท้องฟ้าที่กว้างใหญ่ ก็รอให้เธอ ค้นหาคำตอบ” ฟังเต็มๆเพลงได้ที่นี่ กดเลย 2. Jeep – วัชราวลี   “เมื่อเธอทุกข์ใจ ให้ลองเอาเท้าจุ่มน้ำ ปล่อยความทุกข์ลอยไปกับทะเลและฟ้าสีคราม” ฟังเต็มๆเพลงได้ที่นี่ กดเลย 3.นักเดินทาง – Getsunova  “ออกไปสู่บนเส้นทางใหม่ ไกลออกไปสู่โลกที่กว้างใหญ่ ออกร่วมกันเดินทาง” ฟังเต็มๆเพลงได้ที่นี่ กดเลย 4.วันหนึ่งฉันเดินเข้าป่า – แม็กซ์ เจนมานะ “ถ้าเราเหนื่อยล้าจงเดินเข้าป่า…..” ฟังเต็มๆเพลงได้ที่นี่ กดเลย 5. See Scape – Scrubb   “ออกไปมองฟ้า และน้ำที่กว้างใหญ่ ให้ได้กลิ่นดินที่ลมนั้น พัดเข้ามาจากสุดปลายฟ้า” ฟังเต็มๆเพลงได้ที่นี่กดเลย 6. โลกใบใหม่ – 25 Hours  “ท้องฟ้ากว้างไกล เธอว่าไหม? เตรียมตัวพบกับ โลกใบใหม่” ...

? หากพูดถึงการท่องเที่ยวในช่วงซัมเมอร์แล้วนั้น แน่นอนว่า “ทะเล” ? คือจุดหมายในใจของใครหลายคน แต่ถ้าไม่มีวันลาหรือต้องการเดินทางใกล้ ๆ โดยไม่ต้องไปไกลถึงภาคใต้กันล่ะ จะเป็นไปได้มั้ยยย❓ คลายความกังวลของคุณกันได้แล้วนะคะ เพราะทราวิสโกจะพาทุกท่านไปจัดทริป เที่ยวซัมเมอร์นี้ให้ลุกเป็นไฟ ด้วย #6ที่เที่ยวทะเลระยอง สวยงามเหนือความคาดหมายโดยไม่ต้องไปไกลก็ฟินได้ แถม pocket money ยังมีเหลือ ๆ อีกด้วยนะ ตามมาเลยค่ะ?   1️⃣ เกาะเสม็ด ? หากพูดถึงระยองแล้วนั้น “เกาะเสม็ด” คงเป็นสถานที่นึกถึงกันเป็นอันดับต้น ๆ เพราะขึ้นชื่อว่าเป็นเพชรเม็ดงามประจำอ่าวไทย ตั้งอยู่ที่ตำบลเพ อำเภอเมืองระยอง ห่างจากชายฝั่งบ้านเพประมาณ 6 กิโลเมตร ด้วยธรรมชาติที่เพียบพร้อมสมบูรณ์ ?️ หาดทรายสีขาวเนื้อละเอียดดั่งแป้ง น้ำทะเลสีใสราวกับกระจก แสงแดดส่องกระทบกระจายเฉดสี เขียว-ฟ้า-คราม เป็นเสมือนขั้วแม่เหล็กที่ดึงดูดใจนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ และความสวยงามอีกอย่างหนึ่งที่ไม่อยากให้พลาดกัน คือ การรอชมพระอาทิตย์ตกดิน? ที่บรรยากาศสุดแสนโรแมนติก แสงสีส้มทาบทับชายหาดเป็นริ้วสีทอง เป็นภาพที่งดงามจับใจ ?  2️⃣ หาดแม่รำพึง? ?มาต่อกันด้วยหนึ่งหาดยอดนิยมจากนักท่องเที่ยว “หาดแม่รำพึง” ห่างจากตำบลบ้านเพเพียง 6 กิโลเมตร และเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า ตั้งอยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ 500 ...