ปี 2019 ใกล้จะผ่านพ้นไปทุกที เผลอแปปเดียวนี่ก็วันที่ 19/10/19 กันแล้ว หากพูดถึงเทศกาลปีใหม่ ที่เป็นเทศกาลแห่งการเฉลิมฉลองแบบสากลไปทั่วโลก อีกเทศกาลหนึ่งที่เป็นของคู่กันราวกับพรหมลิขิต นั่นก็คือ “การ Countdown” ซึ่งในแต่ละประเทศทั่วโลกก็จะมีการจัดงานแตกต่างกัน แต่จะมีที่ไหนกันบ้าง วันนี้น้องนำโชคเลยยกมาเล่าให้พี่ๆฟังกัน 9 ประเทศครับ กับหัวข้อ “ 9 สถานที่ Countdown ก้าวสู่ปีใหม่ 2020 ”  ไปดูกันเลยครับ… ?New York @ USA ถ้าจะให้พูดถึงการ Countdown นับถอยหลังเข้าสู่ปีใหม่ภาพของ “อเมริกา” อาจจะเป็นอันดับต้นๆที่แล่นเข้ามาในหัวของใครหลายๆคน เพราะที่ “Time Square” ผู้คนต่างออกมาเฉลิมฉลองในการเข้าสู่ศักราชใหม่ ทำให้บรรยากาศในบริเวณนั้น ตลบอบอวลไปด้วยความยินดีและความสุขของงานฉลองเทศกาลแห่งการเริ่มต้นใหม่ บรรยากาศในงานจะสนุกขนาดไหน ต้องลองไปสัมผัสด้วยตัวเองนะครับ ?Sydney @ Australia ระเบิดความสนุกกับเทศกาลดนตรี ที่เข้าชมได้ “ฟรี” เพราะที่นี่ อ่าวซิดนีย์ จะเป็นประเทศอันดับต้นๆของโลกที่จะก้าวเข้าสู่ปีใหม่ก่อนใคร บรรดาผู้คนจะมารวมตัวกันเพื่อต้อนรับปีใหม่ที่จะมาถึงในเทศกาลดนตรีปีใหม่ ที่จะเริ่มความสนุกตั้งแต่ในช่วงเย็น มีการจุดดอกไม้ไฟอย่างยิงใหญ่บริเวณสะพานฮาร์เบอร์ (Habour Bridge) สำหรับคนรักดนตรี การ Countdown ...

ในเวลานี้ 1 ในประเทศที่ได้รับความนิยมในการท่องเที่ยว ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า “เวียดนาม” ติดอันดับต้นๆ ที่ใครหลายๆ คนก็พูดถึง เพราะเดินทางง่าย อาหารอร่อย สินค้าราคาถูก และมีบรรยากาศคล้ายบ้านเรา ทำให้ชาวไทยให้ความสนใจในการไปเที่ยวที่เวียดนามสูงขึ้น แต่สำหรับใครที่ยังไม่รู้ว่าจะไปที่ไหน เดี๋ยววันนี้ ผมแนะนำเองครับ กับ ✨ ไปไหนดีเวียดนาม 10 ที่เที่ยวถ่ายรูปสวย ? ทริปเดียวลงรูปได้ทั้งปี ✨   ? Check point # 1 : พาไปล่องเรือ @ฮาลอง เบย์ (Halong Bay) ?‍♀ 1 ในมรดกโลกทางธรรมชาติที่สำคัญแห่งหนึ่ง โดยการมาท่องเที่ยวที่อ่าวฮาลอง หรือ ฮาลองเบย์ ปกติแล้วจะเป็นการนั่งเรือชมบรรยากาศธรรมชาติให้ร่างกายได้สัมผัสกับ สายลม แสงแดด และเกลียวคลื่น ถ้าในช่วงหยุดยาวปีใหม่ ยังไม่มีแพลนไปที่ไหน “ปิดจอและเปิดใจ” ลองออกไปสัมผัสประสบการณ์ใหม่ที่มีแค่การท่องเที่ยวตามธรรมชาติเท่านั้น ลองดูนะครับ! แล้วจะรู้ว่า.. โลกนี้ยังมีอะไรที่สวยงามให้ตามหาอีกมากมาย   ? Check point # 2 : ...

#รู้หรือไม่ ❓ แก้วนี้มีที่มา : ความเป็นมา กว่าจะเป็น… “ชานมไข่มุก” พี่ๆ รู้หรือไม่ครับ ว่าเมนูเครื่องดื่มสุดฮิตตอนนี้อย่าง “ชานมไข่มุก” เกิดขึ้นจาก “ความบังเอิญ” ? ในอดีต ประเทศไต้หวันนิยมดื่มชาดำร้อน โดยได้รับความนิยมมาจากชาวจีนที่อพยพมาอยู่ประเทศไต้หวัน ต่อมามีชาวไต้หวันไปเที่ยวที่ประเทศญี่ปุ่น แล้วเห็นชาวญี่ปุ่นดื่มกาแฟใส่น้ำแข็ง จึงลองนำกลับมาประยุกต์ดูบ้าง จึงเกิด “ชาเย็นไต้หวัน” ขึ้นเป็นครั้งแรก เวลาผ่านไป ชาวไต้หวันก็เริ่มเบื่อชาสูตรเดิมๆ จนคุณ หลิน ชิว ฮุ่ย (Ms. Lin Hsiu Hui) ที่กำลังนั่งทานเฟิ่นเหยียน (Fen Yuan) ขนมที่ทำจากแป้งมันคล้ายโมจิของญี่ปุ่น ได้เทตัวขนมลงไปในน้ำชาและลองทานดู “โอโห้ ห่าวชือ !!” แปลเป็นไทยได้ว่า มันอร่อยมาก !! เธอจึงนำไปขายในร้าน ชุน ฉุ่ย ถัง (Chun Shui Tang) จนได้รับความนิยมไกลถึงทั่วโลกในเวลาต่อมา ?เกร็ดความรู้เพิ่มเติม : ในประเทศไทย ชาไข่มุกได้เข้ามาเป็นส่วนนึงของบ้านเราตั้งแต่ยุค 90 ในสมัยนั้นวัยรุ่นที่ไปเที่ยวสยามจะถือแก้วชาไข่มุก “ทรงดัมเบลยาว” เป็นภาพที่เห็นได้จนชินตา ...

? “เที่ยวญี่ปุ่นแบบคาวาอี้ เนรมิตทุกอย่างให้เป็นสีชมพูกับ Hello Kitty Shinkansen” ? ? ขบวนรถไฟชินคันเซ็นสุดน่ารักสีชมพูและขาวในธีม “เฮลโลคิตตี้ (Hello Kitty)” คาแรคเตอร์ยอดนิยมจากค่ายซันริโอ (Sanrio) ด้วยดีไซน์ภายนอกที่โดดเด่นด้วยริบบิ้นขนาดใหญ่ และการตกแต่งภายในตู้โดยสารที่เต็มไปด้วยแรงบันดาลใจจากเฮลโลคิตตี้ ทำให้รู้สึกราวกับกำลังเดินทางท่องเที่ยวไปด้วยกันกับแมวน้อยสุดน่ารักตัวนี้เลยทีเดียว โดยเฉพาะที่ตู้โดยสารหมายเลข 1 หัวขบวน และตู้โดยสารหมายเลข 8 นั้นจะมีเฮลโลคิตตี้ในชุดเครื่องแบบพนักงาน JR-WEST มาคอยให้การต้อนรับผู้โดยสาร และภายในตู้โดยสารทุกตู้ก็จะสดใสน่ารักไปด้วยภาพวาดของเฮลโลคิตตี้ ⭐ ตู้โดยสารหมายเลข 1 “เฮลโล! พลาซ่า (Hello! Plaza)” ⭐ภายใน “ตู้โดยสารหมายเลข 1” ซึ่งเป็นตู้โดยสารหัวขบวนฝั่งฮะคะตะ (Hakata) มีการถอดเก้าอี้โดยสารชุดเดิมออก เพื่อทำเป็นพื้นที่จัดแสดงผลงานประจำท้องถิ่น เรียกว่า “เฮลโล! พลาซ่า (Hello! Plaza)” ซึ่งมีทั้งร้านจำหน่ายสินค้ารุ่นลิมิตเต็ดและผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น มีพื้นที่ให้ชมวิวจากทางหน้าต่างรถไฟเพื่อพักให้คลายเหนื่อย และยังมีโซนฉายภาพยนตร์แนะนำเสน่ห์ที่น่าสนใจของท้องถิ่นอีกด้วย   ⭐ ตู้โดยสารหมายเลข 2 “คาวาอี! รูม (Kawaii! Room)” ⭐ สำหรับ “ตู้โดยสารหมายเลข 2” เป็นตู้โดยสารประเภทไม่ระบุที่นั่งซึ่งใช้เก้าอี้โดยสารชุดเดิมเกือบทั้งหมด ...

สวัสดีครับพี่ๆ วันนี้น้องนำโชคก็มีสถานที่ท่องเที่ยวที่แฟนบอลหลายๆ คนใฝ่ฝันว่าอยากจะไปให้ได้สักครั้ง! ตามนำโชคไปดูกันเลยครับ ⚽ 1) Old Trafford โรงละครแห่งความฝันของ Manchester United           Glory Glory Man United  สนาม Old trafford จะแบ่งออกเป็น 4 โซน คือ  โซนทางทิศเหนือ,ใต้, ตะวันออกและตะวันตก โดยวันนี้จะขอแนะนำโซนหลักๆ คือ โซนทิศเหนือ และ โซนทิศตะวันออกครับ ทิศเหนือ (North Stand) : จะมีจุดสังเกตคือ มีพิพิธภัณฑ์กับคาเฟ่ และ รูปปั้นของกุนซือที่เก่งกาจที่สุดของทีมปีศาจแดง Manchester United นั่นก็คือ Sir Alex Ferguson ด้านในของพิพิธภัณฑ์ จะมีการจัดแสดง ถ้วยรางวัลต่างๆ ที่แมนยูไปกวาดมานับไม่ถ้วน และ เสื้อของนักเตะที่ใช้ลงแข่งขันในแต่ละยุคสมัย และยังมีรูปและประวัติของนักเตะในตำนานจากอดีตจนถึงปัจจุบัน พร้อมชุดของพวกเค้าจัดแสดงอยู่ด้วย ทิศตะวันออก (East Stand) : จุดสังเกตคือมีร้าน ...

✨ จากพาร์ทที่แล้วที่ได้พาท่านเดินทางไป “เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก” กันแล้ว ในวันนี้..จะนำท่านไปกันต่อที่ “มอสโคว์” และจะมีอะไรน่าสนใจกันบ้าง ไปดูกันเลย ? ? การเดินทางพาร์ทที่ผ่านมา : https://blog.travizgo.com/uncategorized/reviewrussia/ ? DAY 5 : เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก – พิพิธภัณฑ์ออโรร่า – ห้าง Galeria – สนามบินเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก – มอสโคว ✨ ? วันนี้จะเป็นวันสุดท้ายในเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก มุ่งหน้าสู่มอสโคว ดังนั้น ในวันนี้แพลนของผมจึงค่อนข้างสบายมากครับ เริ่มจากการไปเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์เรือรบออโรร่า (The Battleship Aurora) โดยความสำคัญของเรือลำนี้คือ ได้ออกไปร่วมรบในสงครามระหว่างรัสเซียและญี่ปุ่น แต่ด้วยวิทยาการอันก้าวหน้าของญี่ปุ่น รัสเซียจึงเป็นฝ่ายพ่ายแพ้กลับไป ต่อมา ในช่วงเปลี่ยนแปลงการปกครอง ในช่วงปลายสงครามโลกครั้งที่ 2 เยอรมันบุกเข้าโจมตีรัสเซียหมายจะยึดพระราชวังฤดูหนาว รัสเซียจึงตัดสินใจจมเรือรบออโรร่าลง เพื่อป้องกันการถูกทำลายในขณะนั้น และเมื่อสิ้นสุดสงคราม รัสเซียก็ได้กู้เรือขึ้นมาอีกครั้ง และปรับปรุงเป็นพิพิธภัณฑ์ในปัจจุบัน หลังจากเยี่ยมชมประวัติศาสตร์ของเรือรบออโรร่าแล้ว ได้ไปเดินพักผ่อนที่ห้าง Galeria เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนขึ้นเครื่องบินไปมอสโคว ? ในการเดินทางครั้งนี้ ไปด้วยเที่ยวบิน SU6019 เวลา ...

ถ้าจะให้พูดถึงประเทศที่คนไทยนิยมไปท่องเที่ยวมากที่สุด “ญี่ปุ่น” คงเป็น 1 ในประเทศที่ติดอันดับนี้ได้อย่างไม่ยากเย็นนัก แต่พี่ๆ รู้หรือไม่ครับว่าที่ญี่ปุ่น มีข้อห้ามอะไรบ้าง ที่ห้ามทำอย่างเด็ดขาด หรือ ผิดจากวัฒนธรรมของชาวญี่ปุ่น มาเช็คกันเลย กับ “10 ข้อห้ามและข้อควรระวัง เมื่อไปญี่ปุ่น”   ❗ 1. อย่าปักตะเกียบลงบนข้าว หรือ ส่งอาหารกันผ่านตะเกียบ ?เพราะที่ประเทศญี่ปุ่นจะมีวัฒนธรรมในงานศพ ว่าจะนำข้าวมาวางใกล้ๆ ผู้เสียชีวิตและปักตะเกียบลงบนข้าว และ ในงานศพจะมีพิธีที่ส่งต่อกระดูผู้เสียชีวิตผ่านตะเกียบ การที่ส่งอาหารผ่านตะเกียบ จะทำให้ชาวญี่ปุ่นรู้สึกขนลุกหรือไม่พอใจได้ ❕ 2. การใช้โทรศัพท์บนรถไฟหรือรถสาธารณะ ?เป็นที่รู้กันดีว่า ชาวญี่ปุ่นเคร่งเรื่องมารยาท โดยเฉพาะในที่สาธารณะ ดังนั้นการที่มีใครสักคนใช้โทรศัพท์มือถือบนรถไฟหรือรถสาธารณะ จะทำให้มีสายตาหลายคู่หันมาจับตามองทันที ❗ 3. การให้ทิป ?ทิปของที่นี่ จะรวมอยู่ในค่าอาหารหรือบริการทั้งหมดอยู่แล้ว ดังนั้น หากคุณให้ทิปกับพนักงานหรือคนขับรถอีก พวกเค้าจะนำเงินในส่วนนั้นมาคืนคุณ สามารถตอบแทนการบริการที่ดีของพนักงานหรือคนขับรถด้วยคำว่า “อาริงาโตะ” (ありがとう / Arigato) แทนก็ได้ครับ ❕ 4. ห้ามรับประทานอาหารและเครื่องดื่มในที่สาธารณะ ?ยังคงเป็นเรื่องของมารยาทอันเคร่งครัดของชาวญี่ปุ่นครับ และด้วยเหตุนี้ การทานอาหารหรือน้ำดื่มในที่สาธารณะ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “การเดินไปทานไป” เป็นสิ่งที่ชาวญี่ปุ่นไม่พอใจเป็นอย่างมาก ...

? ปีใหม่ใกล้เข้ามาทุกทีแล้ว หลายๆคนคงเริ่มวางแผนกันแล้วว่า หยุดยาวในช่วงสิ้นปีและต้นปี จะไปที่ไหนดีนะ ? สำหรับใครที่ยังคิดไม่ออก วันนี้ น้องนำโชค จะมาเสนอ “5 สถานที่เที่ยว” จะมีสถานที่น่าสนใจ หรือจังหวัดไหนติดอันดับมาบ้าง ตามน้องนำโชคไปดูเลยครับ ? 1. ? ประเทศกรีซ  :  ซานโตรินี่ พาร์ค @ชะอำ แลนด์มาร์คแห่งแรกที่จะแนะนำกันก็คือ  “ซานโตรินี่ พาร์ค” @ชะอำ     ภาพรวมด้านในของซานโตรินี่ เป็นสถาปัตยกรรมสไตล์โมเดิร์นคุมโทนสีฟ้า-ขาว โดยจะแบ่งออกเป็นโซนหลักๆคือโซนเครื่องเล่น และ โซนพักผ่อน ซึ่งในโซนพักผ่อนนี้ ก็จะมี Shop สินค้าแบรนด์เนมต่างๆ ร้านกาแฟและร้านอาหารซึ่งทุกพื้นที่สามารถกลายเป็นมุมถ่ายรูปสวยๆ ได้อย่างลงตัว เรียกได้ว่า มาซานโตรินี่วันเดียว ลงรูปจากทริปนี้ได้เป็นปีกันเลย ? วิธีการเดินทางไปซานโตรินี่ :จากกรุงเทพ ใช้ทางด่วนดาวคะนองมาลงที่ถนนพระราม 2 เลี้ยวซ้ายที่แยกวังมะนาว สมุทรสงคราม เข้าถนนเพชรเกษมผ่านเพชรบุรี ตรงสู่ชะอำ ก่อนแยกเลี้ยวไปชะอำจะเจอ พรีเมี่ยม เอาท์เล็ต (Premium Outlet) ทางขวามือ สังเกตด้านขวามือไว้จะเห็นชิงช้าสวรรค์ของซานโตรีนี่ เตรียมยูเทิร์นเข้าซอยด้านข้างซานโตรินี่ได้เลย ...

? เมืองคัปปาโดเกีย (Cappadocia) เมืองมรดกโลกอีกแห่งหนึ่งในตุรกี ?? คำว่า ‘คัปปาโดเกีย’ มาจากภาษาเปอร์เซียว่า คัตปาตุกา (Katpatuka) มีความหมายว่าดินแดนที่มีม้าแสนสวย ตั้งอยู่บนพื้นที่ที่เคยเป็นภูเขาไฟชื่อเอร์จีเยส สูง 3,916 เมตร บนยอดเขามีหิมะปกคลุมตลอดปี สามารถมองเห็นทะเลดำและทะเลเมดิเตอร์เรเนียน เมืองแห่งนี้เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟจนกลายมาเป็นหินรูปต่างๆ ที่ถูกกัดกร่อนจากลมและฝน หิมะและน้ำมานับล้านปี จนกลายสภาพเป็นหุบเขาร่องลึกแปรรูปพรรณสัณฐานเป็นเสาหิน กรวยหิน กำแพงถ้ำ ซึ่งเหมาะในการอยู่อาศัย อากาศเย็นสบายในฤดูร้อน อากาศอบอุ่นในฤดูหนาว ?   7 เหตุผล ที่เราควรไปเมืองคัปปาโดเกียสักครั้งในครั้งในชีวิต ?     ✅ 1. เมืองมรดกโลก คัปปาโดเกีย (Cappadocia) ประเทศตุรกีได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติและวัฒนธรรม โดยยูเนสโก (UNESCO) เมื่อปีค.ศ. 1985   ✅ 2. สถานที่ที่ธรรมชาติสรรค์สร้าง เดอร์เบนท์ (Derbent)เป็นหุบเขาหินสีชมพู ธรรมชาติได้สร้างสรรค์ปรุงแต่งหินที่นี่เป็นรูปร่างต่างๆ แปลกๆ มาก เช่น โลมา เพนกวิน พระแม่มารีและพระสาวก ที่สำคัญโดดเด่นคือหินรูปอูฐหมอบอยู่มีขนาดใหญ่ชมพูเหมือนอูฐของจริงเป็นอย่างมาก จึงเป็นจุดที่ทุกคนจะต้องมาขอถ่ายรูปด้วยทุกคน   ...

? สวัสดีเดือนตุลาคมครับ วันนี้น้องนำโชคจะมาแบ่งปันประสบการณ์ดีๆ “เที่ยวเอง แบบจัดเต็ม 8 วัน ที่รัสเซีย (Part1)” ให้พี่ๆ ฟังกัน ถ้าใครสนใจอยากไปเที่ยวตามรอยน้องนำโชค แนะนำให้เซฟแพลนรัวๆเลยครับ เรามาเริ่มกันเลยนะครับ ?   ? DAY 1 : กรุงเทพสู่มอสโคว การเดินทางครั้งนี้ ยาวประมาณ 9 ชั่วโมงกว่าๆ ครั้งนี้น้องนำโชคได้บินกับสายการบินไทยครับ อาหารบนเครื่องอร่อยมากๆเลย พี่ๆแอร์โฮสเตสก็บริการดี ที่นั่งก็สบาย ไม่ต้องเบื่อกับการเดินทางเลยครับ ในคืนแรก น้องนำโชคพักผ่อนที่โรงแรม Holiday Inn Seligersk Moscow และพรุ่งนี้จะนั่งรถไฟไป “เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก” โดยขากลับก็จะได้พักโรงแรมเดิมอีก ทางโรงแรมจึงยินดีรับฝากสัมภาระ สำหรับคนที่ไม่ต้องการพกสำภาระไปเซนต์ปีเตอร์ฯด้วย ?  DAY 2 : มอสโคว – เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก – มหาวิหารไอแซค – พิพิธภัณฑ์เฮอมิเทจ เช้านี้น้องนำโชคตื่นเต้นมาก ตื่นแต่เช้าเพื่อเตรียมตัวนั่งรถไฟในตอน 06:50 น. จากโรงแรมที่น้องนำโชคพักไปถึงสถานีรถไฟยังพอมีเวลาเหลือ เลยแอบแวะซื้อ KFC ...