ซื้อตั๋วเครื่องบินแล้วแต่ไม่ได้เดินทาง ขอเงินคืนได้หรือไม่? ✈️ เมื่อชำระค่าโดยสารเที่ยวบินเต็มจำนวนและได้รับเอกสารยืนยันการสำรองที่นั่งจากสายการบินแล้ว แต่ไม่สามารถเดินทางได้ อย่างน้อยจะสามารถขอภาษีสนามบินคืนได้นะคะ ✈️ ภาษีสนามบิน มีชื่อตามกฎหมายคือ ค่าบริการผู้โดยสารขาออก (Passenger Service Charge) ภาษีสนามบินเป็นค่าบริการที่สนามบินจัดเก็บกับผู้โดยสารผ่านทางสายการบิน (พร้อมกับการซื้อบัตรโดยสาร) สายการบินจะนำส่งเงินรายได้จากภาษีสนามบินให้กับสนามบินตามจำนวนผู้โดยสารที่เดินทางจริง ✈️ ดังนั้น หากไม่ได้เดินทาง เราจึงสามารถขอคืนเงินค่าภาษีสนามบินจากสายการบินได้ โดยให้ติดต่อโดยตรงกับสายการบินผ่านช่องทางต่าง ๆ เช่น Call Center , Email, Website เป็นต้น ✈️ ข้อมูลอะไรบ้างที่ต้องเตรียมในการขอคืนภาษีสนามบิน เช่น ชื่อ-นามสกุลผู้จอง หมายเลขการจอง รายละเอียดเที่ยวบิน เบอร์ติดต่อกลับ ในกรณีที่จองกับตัวแทนจำหน่ายอาจต้องติดต่อตัวแทนจำหน่าย และจะต้องดำเนินการภายในระยะเวลาและเงื่อนไขที่แต่ละสายการบินกำหนด (บางสายการบินอาจมีค่าธรรมเนียมการดำเนินการ) ✈️ ส่วนการขอคืนค่าโดยสารจะขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของบัตรโดยสารแต่ละประเภท ซึ่งเราควรตรวจสอบก่อนทำการจองบัตรโดยสารทุกครั้งนะคะ #TRAVIZGO #ทราวิสโก #แอปจองที่พัก #แอปจองตั๋วเครื่องบิน #แอปจองโรงแรม #ภาษีสนามบิน #ขอคืนภาษีสนามบิน #คืนตั๋วเครื่องบินได้ไหม

  ข้อควรรู้ในการนำ “แบตเตอรี่สำรอง” (Power Bank) ขึ้นเครื่องบิน   ทุกสายการบินจะมีการกำหนดขนาดความจุไฟฟ้าของ “แบตเตอรี่สำรอง” (Power Bank) ในการนำติดตัวขึ้นเครื่องไว้อย่างชัดเจน ตามมาตรฐานความปลอดภัยของสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (IATA) ซึ่งข้อกำหนดเหล่านั้น ล้วนเพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสารทั้งสิ้น ใครที่ต้องการจะนำ Power Bank ติดตัวขึ้นเครื่องต้องทราบข้อมูลดังต่อไปนี้   ✈ 1.ห้ามนำ Power Bankใส่กระเป๋าโหลดใต้ท้องเครื่องการ นำแบตเตอรี่สำรองใส่ไว้ในกระเป๋าที่โหลดใต้ท้องเครื่องนั้น ทั้งอยู่ใต้ท้องเครื่อง ทั้งอยู่ในกระเป๋าเอาออกก็ยาก หากเกิดเหตุฉุกเฉินแบตเตอรี่เกิดติดไฟขึ้นมาจะแก้ไขลำบาก ✈ 2.นำ Power Bank ใส่กระเป๋าถือขึ้นเครื่องเสมอควรจะพก Power Bank ใส่กระเป๋าสัมภาระที่สามารถหยิบใช้ได้สะดวก และหากเกิดเหตุสุดวิสัยขึ้นมา เจ้าหน้าที่ก็สามารถช่วยกันระงับเหตุได้ทันท่วงที ✈ 3.Power Bank ความจุเท่าไหร่ ถึงนำขึ้นเครื่องได้ ?3.1.ความจุไฟฟ้ามากกว่า 32000 mAh ไม่ได้รับอนุญาตให้นำขึ้นเครื่องทุกกรณี?3.2.ความจุไฟฟ้าอยู่ที่ระหว่าง 20000 – 32000 mAh สามารถนำขึ้นเครื่องได้ไม่เกิน 2 ก้อน?3.3.ความจุไฟฟ้าต่ำกว่า 20000 mAh สามารถนำขึ้นเครื่องได้?3.4.Power Bank ที่ไม่ระบุความจุไว้บนตัวเครื่อง ...

5 เหตุผลที่เราควรลาพักร้อนออกไปเที่ยว ชาร์จแบตให้ตัวเองสักครั้ง หลายๆ คนทุ่มเททำงานมาตลอดตั้งแต่ ต้นปี ถึงเวลาแล้วที่เราควรหาเวลา ออกไปเที่ยวบ้าง เที่ยวในที่แปลกใหม่ เปลี่ยนบรรยากาศ เปลี่ยนที่นอน รับรองว่าเราจะได้พบกับข้อดีหลาย ๆ อย่าง เพื่อช่วยให้กลับมาทำงานได้ อย่างมีประสิทธิภาพด้วยมุมมองแปลกใหม่แน่นอน และนี้คือ 5 เหตุผลที่มารองรับ  ✔️ 1.ช่วยผ่อนคลายความเครียดการออกไปเที่ยวช่วยให้เราผ่อนคลายความเครียดจากการทำงาน มาปล่อยวางจากเรื่องเครียดทุก ๆ อย่างแล้วออกเดินทางไปหาประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้ชีวิตกันดีกว่า ✔️2. ช่วยพัฒนาความคิดสร้างสรรค์การที่ได้ออกท่องเที่ยวไปยังที่แปลกใหม่ที่ล้อมรอบโดยสิ่งใหม่ๆ จะทำให้เกิดแรงบันดาลใจในการคิดสร้างสรรค์ได้มากกว่าอยู่ในที่เดิม ๆ แน่นอนค่ะ ✔️3. ช่วยให้แก้ไขปัญหาต่าง ๆ ได้ดีขึ้น การออกไปเที่ยวนั้นเราต้องพึ่งตัวเองเป็นหลักและแน่นอนว่าถ้าเราผ่านมันมาได้ ประสบการณ์ในการเที่ยวครั้งนั้นจะทำให้เรามีสติในการแก้ไขปัญหาได้มากกว่าเดิมอย่างแน่นอน และสามารถเอามาใช้ในการทำงานได้อีกด้วย  ✔️4. ช่วยฝึกความอดทนการออกไปเที่ยวทำให้เราเรียนรู้วิธีรับมือกับสิ่งต่าง ๆ เมื่อต้องเจอกับเหตุการณ์บางอย่างที่ไม่ได้เป็นดั่งใจ ทำให้เราเกิดความอดทนอดกลั้น การออกไปเที่ยวครั้งนี้ถือว่าเป็นการฝึกความอดทนให้กับตัวเราเองได้เป็นอย่างดี  ✔️5.ช่วยเปลี่ยนมุมมองให้เราเป็นคนใหม่ การเดินทางทำให้เราได้เจอชีวิตในรูปแบบใหม่ ความเป็นอยู่ คนต่างชาติต่างศาสนา เรียนรู้ชีวิตใหม่ สิ่งเหล่านี้สามารถช่วยเปลี่ยนมุมมอง เปลี่ยนความคิดเราให้กลายเป็นคนใหม่ได้  ดังนั้น การท่องเที่ยว ก็เปรียบเหมือนการลงทุน มันสอนเรามากมายเกี่ยวกับชีวิตได้มากกว่าห้องเล็ก ๆ สี่เหลี่ยมในที่ทำงาน อาจทำให้เราเกิดแรงบันดาลใจให้ผลักดันตัวเองให้เดินต่อในทางที่ดีขึ้นและกลับมาทำงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นอีกด้วยนะคะ  #TRAVIZGO #ทราวิสโก #แอปจองที่พัก #แอปจองตั๋วเครื่องบิน #แอปจองโรงแรม #ลางานออกไปเที่ยว #หาประสบการณ์ชีวิต #ออกไปเที่ยว

ทำไมจึงควรซื้อ “ประกันเดินทาง” ตอนไปท่องเที่ยวต่างประเทศ และคุ้มครองอะไรบ้าง? ?ถือเป็นคำถามยอดฮิตคำถามหนึ่งในการเดินทางไปท่องเที่ยวต่างประเทศเลยทีเดียว โดยคำถามที่ว่าก็คือ “จะซื้อประกันเดินทางดีไหม” บางคนอาจจะมองว่าเป็นการเสียเงินไปเปล่าๆ เนื่องจากมองว่าหากเราดูแลตัวเองดี ๆ ก็คงจะไม่ประสบอุบัติเหตุอะไร  ?สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องเดินทางบ่อย ๆ คงทราบกันดีว่าประกันภัยการเดินทางต่างประเทศนั้นมีความสำคัญและมีประโยชน์อย่างยิ่งระหว่างการเดินทาง แต่สำหรับนักท่องเที่ยวมือใหม่อาจจะยังงง ๆ และสงสัยว่าทำไมต้องทำประกันการเดินทาง และประกันการเดินทางนั้นจำเป็นขนาดไหน ?คำตอบคือ จำเป็นมาก ๆ เพราะอุบัติเหตุหรือบางเหตุการณ์ก็เป็นเหตุสุดวิสัยที่เราไม่สามารถคาดเดาได้ว่ามันจะเกิดเมื่อไร แล้วจะเกิดหรือไม่ระหว่างที่เรากำลังเที่ยวอยู่ต่างประเทศ และเป็นที่ทราบกันดีว่าค่ารักษาพยาบาลในบางประเทศนั้นสูงลิบลิ่ว และมีกระบวนการที่ยุ่งยากมากกว่าที่เมืองไทยมาก ? เพราะฉะนั้นถ้าประเมินแล้วว่าทริปที่เราจะเดินทางไปเที่ยวนั้น มีความเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายกับตัวเองได้ หรือมีโรคประจำตัว หรือมีเหตุการณ์ที่ทำให้เราเคยเจ็บป่วยระหว่างการเดินทางอย่างไม่คาดฝันมาแล้ว ก็ไม่ควรลังเลที่จะทำประกันภัยการเดินทาง ต่อให้คุณแข็งแรงมากมายแค่ไหน ถ้าโชคไม่ดีอุบัติเหตุและเหตุสุดวิสัยก็อาจจะเกิดขึ้นกับคุณได้ทุกเมื่อเช่นกัน ประกันภัยการเดินทางต่างประเทศคุ้มครองอะไรบ้างประกันภัยการเดินทาง จะคุ้มครองเรื่องหลัก ๆ อาทิเช่น ?1. การสูญเสียชีวิต/อวัยวะจากอุบัติเหตุ?2. ค่ารักษาพยาบาลในต่างประเทศ?3. การเคลื่อนย้ายผู้ป่วยและการส่งตัวกลับประเทศ?4. การชดเชยค่าโทรศัพท์กรณีฉุกเฉิน?5. ค่าห้องและค่าอาหาร รวมถึงค่าการพยาบาลต่อวัน ?6. การล่าช้าของเที่ยวบิน?7. การสูญเสียหรือความเสียหายของกระเป๋าเดินทาง?8. ความรับผิดชอบต่อบุคคลภายนอก  ? แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นการคุ้มครองจะมากน้อยและครอบคลุมในเรื่องใดบ้างนั้น ก็ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละบริษัทประกันภัย รวมทั้งบางบริษัทประกันภัยยังไม่คุ้มครองการเดินทางไปยังประเทศที่มีความเสี่ยงจากสงครามและโรคติดต่อด้วย เพราะฉะนั้นให้สอบถามตัวแทนประกันถึงเงื่อนไขต่าง ๆ ให้ครบถ้วนก่อนที่จะตกลงซื้อประกัน #TRAVIZGO#ทราวิสโก#ทัวร์ต่างประเทศ#แอปจองที่พัก#แอปจองตั๋วเครื่องบิน#เที่ยวรอบโลก#ประกันเดินทาง

?เที่ยวด้วยตัวเอง vs ทัวร์พาเที่ยว แบบไหนดีนะ ที่มันใช่สำหรับเรา สำหรับใครวางแผนที่จะไปเที่ยวต่างประเทศ อย่างประเทศฮิต ไม่ว่าจะญี่ปุ่น เกาหลีใต้ หรือประเทศทางแถบยุโรป ยิ่งใครที่จะไปเป็นครั้งแรก เชื่อว่าต้องมานั่งชั่งใจถามกับตัวเองว่าจะไปเที่ยวกับทัวร์ หรือจะไปเที่ยวด้วยตัวเองดี ซึ่งจริง ๆ แล้วการท่องเที่ยวทั้งสองแบบนี้ มีข้อดีแตกต่างกันไป วันนี้เราจะมาช่วยให้คุณตัดสินใจ เลือกรูปแบบการท่องเที่ยวที่เป็นตัวคุณ ลองมาหาคำตอบพร้อม ๆ กันค่ะ. ?1. การวางแผนท่องเที่ยว ?ทัวร์พาเที่ยว:: เพียงแค่เลือกโปรแกรมที่ถูกใจที่อยากไปท่องเที่ยว แล้วทำการจอง – ชำระเงิน หลังจากนั้นก็รอเวลาเพื่อเดินทาง ?เที่ยวด้วยตัวเอง:: จะต้องวางแผนการท่องเที่ยวด้วยตนเอง หรือจะให้เพื่อนร่วมทางช่วยวางแผนการท่องเที่ยวให้ได้เช่นกัน ?2. สถานที่ท่องเที่ยว  ?ทัวร์พาเที่ยว:: เที่ยวตามที่โปรแกรมกำหนด มีไกด์ให้ข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ และมีการให้บริการที่น่าประทับใจ ?เที่ยวด้วยตัวเอง:: สถานที่ท่องเที่ยวเหมือนกันแต่ไม่มีการให้ข้อมูล และการบริการในขณะเดินทาง เราต้องศึกษาข้อมูลด้วยตนเอง ?3. การเดินทาง  ?ทัวร์พาเที่ยว:: เดินทางโดยรถบัส พร้อมไกด์นำเที่ยว ไม่ต้องกังวลเรื่องหลงทาง ?เที่ยวด้วยตัวเอง:: ต้องศึกษาเส้นทางด้วยตัวเองเดินทางโดยรถสาธารณะ อาทิเช่น รถไฟ หรือ รถบัสประจำทาง  ?4. เวลา  ?ทัวร์พาเที่ยว:: มีการกำหนดเวลาในแต่ละสถานที่ท่องเที่ยว เพื่อให้เที่ยวได้หลากหลายสถานที่ ...

ถ้าเธอเป็นทราย ฉันจะเป็นทะเล แม้คลื่นลมจะเกเรแต่ทะเลไม่เคยพรากไปจากทราย #TRAVIZGO#ทราวิสโก#แอปจองที่พัก#แอปจองตั๋วเครื่องบิน#แอปจองโรงแรม#แอปสำหรับนักเดินทาง#เที่ยวทะเล#หาดทราย

8 จุดชมภูเขาไฟฟูจิที่สวยจับตา ถ่ายรูปแอ๊คท่าก็สวยจับใจ ความใฝฝันครั้งหนึ่งของใครหลายๆ คนเวลาไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่น เป็นต้องอยากไปชมความงดงามของภูเขาไฟฟูจิ ด้วยความสูงมากถึง 3,776 เมตร ทำให้กลายเป็นภูเขาไฟที่มีความสูงอันดับหนึ่งของญี่ปุ่นและยังเป็นหนึ่งในมรดกโลกอีกด้วย ไม่ว่าใครหากมาเยือนยังดินแดนแห่งนี้ล้วนหวังว่าจะได้ยลความงดงามของภูเขาไฟฟูจิซักครั้ง ซึ่งการชมภูเขาไฟฟูจินั้นสามารถชมได้จากหลายๆแห่ง วันนี้ทราวิสโกขอแนะนำจุดชมภูเขาไฟฟูจิยอดฮิตมาฝากกัน 1.ทะเลสาบคาวากุจิโกะ (Lake Kawaguchiko) ทะเลสาบคาวากุจิโกะ (Kawaguchiko) ทะเลสาบยอดนิยมสำหรับการชมภูเขาไฟฟูจิ เพราะสามารถเดินทางไปได้ง่าย มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองจากห้าแห่ง ทะเลสาบคาวากูจิโกะนับว่าเป็นจุดชมที่ได้รับความนิยมมากที่สุดเลยก็ว่าได้ ด้วยทำเลที่ตั้งอยู่รอบ ๆภูเขาไฟฟูจิ ล้อมรอบไปด้วยธรรมชาติที่มีความงดงามแตกต่างกันทุกฤดูกาล โดยมีเส้นทางให้เดินชมอยู่ทางทิศเหนือของทะเลสาบ เราสามารถใช้เวลาเพลินๆเดินชิลล์สัมผัสอากาศบริสุทธ์พร้อมวิวภูเขาไฟฟูจิ นอกจากนี้ยังได้ฉายา#ประตูสู่ฟูจิ เพราะอยู่ใกล้กับฟูจิซังเป็นอย่างมาก ทะเลสาบคาวากุจิโกะ (Kawaguchiko) ทะเลสาบยอดนิยมสำหรับการชมภูเขาไฟฟูจิ เพราะสามารถเดินทางไปได้ง่าย มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองจากห้าแห่ง ทะเลสาบคาวากูจิโกะนับว่าเป็นจุดชมที่ได้รับความนิยมมากที่สุดเลยก็ว่าได้ ด้วยทำเลที่ตั้งอยู่รอบ ๆภูเขาไฟฟูจิ ล้อมรอบไปด้วยธรรมชาติที่มีความงดงามแตกต่างกันทุกฤดูกาล โดยมีเส้นทางให้เดินชมอยู่ทางทิศเหนือของทะเลสาบ เราสามารถใช้เวลาเพลินๆเดินชิลล์สัมผัสอากาศบริสุทธ์พร้อมวิวภูเขาไฟฟูจิ นอกจากนี้ยังได้ฉายา#ประตูสู่ฟูจิ เพราะอยู่ใกล้กับฟูจิซังเป็นอย่างมาก 2. ทุ่งดอกชิบะซากุระ (Fuji Shibazakura Festival) ช่วงฤดูใบไม้ผลิกลางเดือนเมษายนของทุกปี จะมีเทศกาลชมชิบะซากุระ (Shibazakura Festival) ที่จังหวัดยามานาชิ ซึ่งไม่ไกลจากโตเกียวมากนักหนึ่งในช่วงที่นักท่องเที่ยวนิยมไปมากที่สุดก็เป็นบริเวณสวนดอกชิบะซากุระในช่วงฤดูใบไม้ผลิที่จะมีการจัดเทศกาลดอกชิบาซากุระ นอกจากจะได้เห็นความงดงามของทุ่งดอกชิบาซากุระที่ผลิบานพร้อม ๆกันกว่า 800,000 ต้นแล้ว เราจะได้เห็นฉากหลังเป็นภูเขาไฟฟูจิอันงดงาม มันเป็นอะไรที่แลดูแล้วมีความสุขที่สุดเลยค่ะ 3. สวนสาธารณะโออิชิ (Oishi ...

  การเที่ยวกับครอบครัวเป็นกิจกรรมที่สนุกไม่แพ้การไปเที่ยวกับเพื่อนหรือคนรักเลย เวลาได้ไปเที่ยวกันแบบพร้อมหน้าพร้อมตากันก็ถือเป็นการสานสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นอีกด้วย แต่บางครอบครัวที่มีผู้สูงอายุอาจกังวลเรื่องวิธีการดูแลผู้สูงอายุขณะไปเที่ยว ดังนั้นเรามาเตรียมความพร้อมก่อนเดินทางกันดีกว่า จะได้เที่ยวอย่างสนุกและสบายใจมากยิ่งขึ้น ?1.วางโปรแกรมให้เหมาะสม การวางแผนการท่องเที่ยวเป็นสิ่งสำคัญในการเดินทางกับผู้สูงอายุ ทั้งในเรื่องสถานที่ท่องเที่ยว ที่พัก สภาพอากาศ เสื้อผ้า การคมนาคม กิจกรรมที่ต้องทำ อาหารการกิน ควรเลือกสถานที่ท่องเที่ยวโดยคำนึงถึงระยะทางและความสมบุกสมบัน ข้อแรกควรเป็นที่ที่รถยนต์เข้าถึง ไม่ต้องเดินไกล และไม่ต้องปีนป่าย ?2.ตรวจสุขภาพก่อนเริ่มทริป  จำเป็นต้องพาผู้สูงอายุไปตรวจสุขภาพก่อนการเดินทางไกลหลายวัน กรณีจะไปท่องเที่ยวต่างประเทศ ก่อนจะเข้าบางประเทศได้ก็ต้องฉีดวัคซีนให้พร้อมเพื่อป้องกันการเกิดโรคต่าง ๆ ด้วย เพราะผู้สูงอายุมีโอกาสป่วยมากกว่าวัยรุ่น เพื่อความปลอดภัยของตัวผู้สูงวัยเอง และยังช่วยให้การท่องเที่ยวเป็นไปอย่างราบรื่น ?3.แจ้งขอใช้บริการวีลแชร์ ติดต่อสายการบินไว้แต่เนิ่น ๆ หากผู้ร่วมทริปสูงวัยมีปัญหาเรื่องการเดิน หรือปัญหาสุขภาพ ?4.ตรวจสอบสิทธิผู้สูงอายุ ที่เที่ยวบางแห่งมีส่วนลดพิเศษสำหรับนักท่องเที่ยววัยเกษียณ ก่อนซื้อตั๋วเข้าชมหรือใช้บริการ ดังนั้นควรตรวจสอบให้ดีก่อนซื้อบัตรเพื่อสิทธิประโยชน์ในการท่องเที่ยว ?5.ช่วยผู้สูงวัยจัดกระเป๋า นอกจากจะดูว่าได้เตรียมทุกอย่างที่จำเป็นสำหรับการเดินทางแล้ว อย่าลืมตรวจสอบว่าต้องนำยาประจำตัวไปให้เพียงพอตลอดทริปแล้วหรือยัง ?6.ดูแลเรื่องอาหารให้กับผู้สูงอายุผู้สูงอายุบางท่านมีข้อจำกัดในการรับประทานอาหารประเภทต่าง ๆ ควรตรวจสอบให้ดีว่าเมนูประเภทไหนที่ผู้สูงอายุทานได้หรือไม่ได้ อาจจะต้องระวังเรื่องอาหารที่หวานจัด เค็มจัด เผ็ดจัด หรือไขมันสูง ?7.อย่าลืมทำประกันการเดินทาง ไม่ว่าจะเป็นทริปต่างประเทศหรือในประเทศ ควรมีประกันสุขภาพและอุบัติเหตุให้ครอบคลุมเสมอ #TRAVIZGO#ทราวิสโก#เที่ยวกับผู้สูงอายุ#แอปจองที่พัก#แอปจองตั๋วเครื่องบิน#แอปจองทัวร์#วัยเกษียณเที่ยวรอบโลก  

     เชื่อว่ายุโรปคือสถานที่ท่องเที่ยวในฝันของใครหลายคน ที่ชีวิตนึงอยากได้ไปยุโรปสักครั้ง วันนี้ทราวิสโกขอรวบรวมว่าฤดูไหนดี ที่น่าจะเหมาะกับไลฟ์สไตล์ของเรา      ซึ่งยุโรปมี 4 ฤดู คือ ฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน ฤดูใบไม้ร่วง และฤดูหนาว ซึ่งอุณหภูมิเฉลี่ยจะแตกต่างกันตามแต่ละพื้นที่ นั้นเราไปดูกันเลยดีกว่า ว่าฤดูไหนบ้างที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ท่องเที่ยวอย่างเรา 1. ฤดูใบไม้ผลิ ช่วงนี้ยุโรปจะมีดอกไม้บานสะพรั่ง แสงแดดอุ่นเบาๆ และอากาศกำลังสบายๆ เป็นช่วงเวลาที่ยุโรปกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง หลังจากผ่านช่วงฤดูหนาวที่หนาวจนเลยจุดเยือกแข็งกันเกือบทุกประเทศ ดอกไม้ใบหญ้าเริ่มผลิดอกออกใบ ซึ่งนักท่องเที่ยวชาวไทยนิยมไปเยือนยุโรปช่วงนี้เป็นที่สุด เพราะอากาศเย็นกำลังพอดีๆ ไม่หนาวหรือร้อนจนเกินไป อีกทั้งเป็นช่วงที่จัดว่าสวยงามที่สุดช่วงหนึ่งเนื่องจากทุ่งดอกไม้ ได้ทยอยกันออกดอกบานสะพรั่งเต็มไปหมด ประเทศที่น่าไปที่สุด : ยุโรปตอนกลาง เช่น เนเธอร์แลนด์ (เทศกาลดอกทิวลิป เม.ย. – พ.ค.) ช่วงเวลา : มีนาคม – พฤษภาคม อุณหภูมิ : 9-22 องศาเซลเซียส 2. ฤดูร้อน ในช่วงฤดูนี้ต้นไม้จะกลายเป็นสีเขียวสวยงาม ดอกไม้บานสะพรั่งเต็มที่ แต่บางเมืองก็แดดแรง และร้อนสุดๆ มีช่วงกลางวันนานกว่าฤดูอื่นๆ เป็นฤดูแห่งความอบอุ่นและการพักผ่อนของคนยุโรป ระหว่าง 3 ...

5 เคล็ดลับ “เตรียมรถให้พร้อม” ก่อนขับรถเดินทาง มาเตรียมพร้อมกับ 5 เคล็ดลับง่าย ๆ ที่จะช่วยให้รถคุณใช้งานได้คุ้มค่า สมสมรรถนะ และปลอดภัยสูงสุดสำหรับการท่องเที่ยวที่สนุกสนานในการเดินทาง 1. เช็คสภาพยางรถยนต์ยางรถยนต์เป็นหัวใจของความปลอดภัย คุณควรเช็คลมยางให้เรียบร้อยอีกครั้งก่อนออกเดินทาง โดยดูปริมาณลมยางที่เหมาะสมจากคู่มือที่มากับรถ นอกจากนั้นยังควรเช็คดอกยาง และลมของยางสำรองเผื่อไว้ด้วย 2. เช็คระบบแอร์ในรถการตรวจเช็คระบบแอร์ในรถ อาทิเช่น แอร์ พัดลมแอร์ น้ำยาแอร์ เหล่านี้ให้อยู่ในสภาพดี หากเราไม่มีความรู้เรื่องระบบแอร์ควรพารถเข้าศูนย์บริการหรือร้านแอร์รถยนต์ให้ทำการตรวจเช็คให้ก็ได้เช่นกัน 3. เช็คของเหลวต่าง ๆ ในรถของเหลว เช่น น้ำมันเบรก น้ำมันเกียร์ออโต้ น้ำฉีดกระจก น้ำมันหล่อลื่น รวมถึงของเหลวอื่น ๆ ว่าอยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งานหรือไม่  4. ระบบไฟต่างๆ ในรถตรวจดูระบบไฟของรถให้พร้อม โดยเฉพาะทริปที่ต้องมีการเดินทางตอนกลางคืน ทั้งไฟหน้า ไฟท้าย ไฟตัดหมอก ไฟสูง ไฟเบรก และไฟฉุกเฉิน โดยอาจจะให้เพื่อนยืนอยู่นอกรถเพื่อเช็คความเรียบร้อย 5. ที่ปัดน้ำฝนตรวจดูสภาพยางที่ปัดน้ำฝนว่ายังใช้งานได้ปกติไหม ระบบน้ำฉีดล้างกระจกไม่มีวัตถุแปลกปลอมไปทำให้อุดตัน เพราะสภาพอากาศที่แปรปรวนแบบนี้ หากเกิดฝนตกแล้วที่ปัดน้ำฝนทำงานไม่ปกติ ทัศนวิสัยในการขับขี่ก็จะไม่ดีตามไปด้วย อันตรายมาก ๆ ดังนั้นก่อนออกเดินทางครั้งนี้ อย่าลืมเช็ครถดี ๆ แบบที่ทราวิสโกแนะนำนะคะ จะได้เดินทางอย่างปลอดภัย ...