รีวิว 10 ร้านอาหารติดดาว ⭐ ในยุโรปกับเมนูจานอร่อย ไม่ไปไม่ได้แล้ว!

1763
0
Share:

การได้ไปเยือนดินแดนสรวงสวรรค์อย่างที่ “ยุโรป” นักท่องเที่ยวมักคิดถึงเฉพาะการท่องเที่ยวกันซะส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นการสัมผัสธรรมชาติที่ตระการตาหรือการเยี่ยมชมสถาปัตยกรรมอันงดงาม แต่คุณอาจลืมไปหรือเปล่าว่า ระหว่างทริปสุดตื่นเต้นนั้น อีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันนั่นก็ คือ… ร้านอาหารเลิศรส! ดังนั้นทราวิสโก จึงได้รวม “10 พิกัดร้านอาหารชื่อดังติดดาวในยุโรป” ที่จะคุณต้องร้องว้าว!เป็นแน่

The Ledbury

มอบรางวัลให้ตัวเอง ด้วยมื้ออร่อยสุดหรูกับร้านอาหารยอดนิยมอันดับ 2 ของประเทศอังกฤษ ติดอันดับ 27 ใน 50 ร้านอาหารที่ดีที่สุดในโลกและเป็นเจ้าของ “2 Michelin Stars ปี 2018” เชฟใหญ่ของที่นี่ได้รังสรรค์เมนูสไตล์ฝรั่งเศสราวกับศิลปะแนวโมเดิร์น และผสมผสานรสชาติให้เข้ากับอังกฤษและประเทศฝั่งแปซิฟิก เมนูอร่อยที่ขาชิมต้องไม่พลาด คือ Flame Grilled Mackerel, Scottish Langoustine, Chantilly of Oyster และRichmond Park Honey แม้ราคาอาจจะสูงสักหน่อย แต่คุณภาพและรสชาติที่ได้ลิ้มลองนั้นเกินคาด ถือว่าคุ้มเกินราคากันเลยทีเดียว

Osteria Francescana

ต่อกันที่ประเทศอิตาลีในเมืองมาโดนา กับร้านอาหารเล็ก ๆ ที่คุณภาพไม่เล็กเหมือนขนาดร้านสถานที่แห่งนี้ นับว่าเป็นที่สุดของ “Fine Dinning” ได้รับรางวัล “3 Michelin Stars” และขึ้นแท่นร้านอาหารที่ดีที่สุดของโลกมาถึง 2 ครั้ง จานอาหารร้านนี้อยู่ภายใต้แนวคิดของอาหารร่วมสมัย สอดคล้องไปกับการตบแต่งของร้าน โดยเชฟผู้ถ่ายทอดความรู้สึกอันลึกซึ้ง ผ่านการปรุงและจัดอาหารราวกับศิลปิน เขาใช้วัตถุดิบจากท้องถิ่นแท้ ๆ และใช้ชีสชื่อดังของอิตาลีอย่าง “Parmigiano Reggiano” ขอเสนอเมนูจานเด็ด เป็นที่จดจำของคนทั่วโลก คือ “Oops! I dropped the lemon tart” รวมถึงจานอื่น ๆ อย่าง Adriatic Chowder, Summer tart, Insalata di mare

Mirazur

ก้าวผ่านชายแดนอิตาลีไปดินแดนน้ำหอมชื่อดังที่ฝรั่งเศสในเมืองเมนตัน ณ ภัตตาคารริมทะเลสาบและภูเขา ร้านนี้ได้รางวัล “3 Michelin Stars ปี 2019” แม้ร้านอาหารนี้จะเรียบหรูดูดี แต่ก็ได้บรรยากาศเป็นกันเองเหมือนอยู่ที่บ้าน เมนูของร้านเกิดจากเชฟได้ซึมซับวัฒนธรรมของอิตาลีกับอาร์เจนติน่า เข้ากับแรงบันดาลใจจากธรรมชาติและสวนผักผลไม้ของเขา จึงผสมผสานสิ่งเหล่านี้เข้ากับความเป็นฝรั่งเศสได้อย่างลงตัว รังสรรค์มาเป็นอาหารจานที่ดีที่สุด มีTexture และสีสันแตกต่างกันชวนให้น่าลิ้มลอง จานอร่อยที่เป็นจุดเด่น คือ Salt-crusted Beetroot with Caviar Cream

Steirereck

มาถึงออสเตรียกันบ้าง กับร้านที่ได้รับรางวัล “2 Michelin Stars” และเป็นร้านอาหารที่ดีที่สุดอันดับ 10 ร้านแห่งนี้นำเสนอเมนูอาหารในรูปแบบสมัยใหม่เข้ากับอาหารสไตล์ประเทศออสเตรเลียและยุโรปสไตล์ดั้งเดิม ซึ่งมีวัตถุดิบหายากตามฤดูกาล ผสมผสานเกิดเป็นจานอาหารอันซับซ้อนและมีเอกลักษณ์ทางรสชาติ ความโดดเด่นอีกด้านหนึ่งคือ ร้านตั้งอยู่ใจกลางของสวน “Stadtpark” ในรูปทรงสมัยใหม่คล้ายพิพิธภัณฑ์ใจกลางเมืองหลวง สุดยอดเมนูที่ควรมาทานทให้ได้เลย คือ “Char & Bee Wax”

Faviken

ร้านอาหารสไตล์นอร์ดิกชื่อดังในประเทศสวีเดน ร้านนี้อยู่ห่างจากกรุงสตอร์คโฮมสักหน่อยแต่รับรองไปแล้วจะรู้สึกคุ้มค่า ร้านนี้ตกแต่งด้วยสไตล์กระท่อมไม้ ให้บรรยากาศแบบ Country คุณจะได้ลิ้มลองเมนูในแบบสร้างสรรค์ที่ไม่ซ้ำใครและหลากหลายคล้าย ๆ อาหารเอเชีย ในร้านมีโต๊ะเพียง 16 โต๊ะเท่านั้น เชฟและพนักงานจึงดูแลและใส่ใจคุณอย่างใกล้ชิด แถมยังได้ครอบครองรางวัล “2 Michelin Stars” ส่วนเมนูแนะนำก็จะเป็น Scallops Cooked Over Burning Juniper Branches นอกจากจะเป็นภัตตาคารแล้ว ยังมีที่พักสุดน่ารักให้นักท่องเที่ยวได้ค้างคืนอีกด้วย

Geranium

ต่อด้วยร้านอาหารติดดาวที่ประเทศเดนมาร์ก กรุงโคเปนเฮเกน ร้านที่คู่ควรแก่การได้ครอบครอง “3 Michelin Stars” เป็นอย่างยิ่ง เขาว่ากันว่าบริการดีแล้วแต่รสชาติอาหารกลับดียิ่งกว่า เมนูอาหารเน้นความเรียบง่าย แต่แฝงด้วยความซับซ้อนและรสชาติแบบนอร์ดิก ให้ความรู้สึกทุกเนื้อสัมผัสในการทาน แถมการรังสรรค์และการตกแต่งจานอลังการเหนือจินตนาการมากทีเดียว อย่างการเสิร์ฟอาหารบนจานหินหนา ๆ ส่วนเมนูชวนชิม คือ Jerusalem Artichoke “Tree” และ Dill Stones

White Rabbit

ร้านอาหารวิวยอดเยี่ยมในมอสโก ประเทศรัสเซีย ต้องยกนิ้วให้กับร้านนี้เลย อยู่บนชั้นที่ 16 ของ Smolensky Passage Center และติด 1 ใน 50 ร้านอาหารที่ดีที่สุดในโลก ร้านอาหารตกแต่งหรูหราโล่งโปร่งสบายและบริการเป็นเลิศ อาหารที่นี่เป็นอาหารสไตล์ฟิวชันแนวผสมผสาน จากศาสตร์การทำอาหารต้นตำรับและวัตถุดิบตามฤดูกาลในแบบสมัยใหม่ ที่ใคร ๆ ก็สามารถทานได้ และมีเมนูเด็ดอย่าง Baked Cabbage with Caviar White Rabbit และตบท้ายด้วย Strawberry Candy in Sugar Dessert ที่ทางร้านให้ลูกค้าได้ทานล้างปากได้ฟรีหลังมื้อหนัก

Maaemo

สุดยอดร้านอาหารในนอร์เวย์ ได้รางวัล “3 Michelin Stars” อยู่ในเมืองออสโล ติดอันดับ 1 ใน 50 ร้านอาหารที่ดีที่สุดเช่นกัน ภายในร้านดีไซน์ค่อนข้างทันสมัย ทำให้นักชิมเพลินไปกับชมความสวยภายในร้านจากการตกแต่งระหว่างรออาหารแสนอร่อยในแบบฉับนอร์เวย์แท้ ๆ นอกจากอาหารอร่อยแล้ว ทางร้านยังเผยถึงวัตถุดิบที่สดใหม่ การแต่งจานเหนือชั้น การนำเสนอที่เกินคาดและบริการอย่างเป็นเลิศจนยากจะหาข้อติของที่นี่ได้จริง ๆ ส่วนจานไฮไลต์ที่ต้องสั่งคือ “Norwegian Oysters”

Restaurant Tim Raue

พบกับร้านอาหารอันดับ 1 ในเยอรมนีที่เชฟชาวเยอรมันหลงใหลในการปรุงรสชาติอาหารแบบเอเชีย และประสบความสำเร็จสูงสุดในประเทศเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังได้รับรางวัล “2 Michelin Stars” อีกด้วย ร้านอาหาร Fine Dining นี้ได้ผสมผสานอาหารจากประเทศจีน ญี่ปุ่น และไทยมารวมกัน รังสรรค์จนเกิดเป็นสุดยอดเมนูสุดสร้างสรรค์ เข้มข้น และมีมิติ รับรองว่าต้องถูกใจคนไทยอย่างแน่นอน เมนูที่เป็นซิกเนเจอร์ของที่นี่ คือ “Wasabi Langoustine”

Mugaritz

จบกันที่สุดยอดร้านอาหารที่ได้ “2 Michelin Stars” กับ 1 ใน 50 ร้านอาหารที่ดีที่สุดของโลกในประเทศสเปน พร้อมกับเชฟผู้มากประสบการณ์ที่โดดเด่นและมากด้วยความสามารถ อาหารแต่ละจานถูกรังสรรค์ด้วยเทคนิคการทำเมนูสุดพิเศษ ปรุงอาหารด้วยความทันสมัย และจินตนาการเหมือนงานศิลป์ ภายในร้านตกแต่งด้วยสีโทนไม้แสนอบอุ่น ให้บรรยากาศนั่งสบาย และเป็นกันเอง พร้อมจัดเต็มกับเมนูสุดพิเศษของร้านอย่าง “An Oyster’s Frozen Kiss”

การได้ไปทานอาหารแสนอร่อยจากภัตตาคารติดดาวกับเมนูจานเด็ดในดินแดนยุโรปแบบนี้ คงเป็นความฝันของเหล่านักชิมทั่วโลก แต่ก่อนจะไปนั้นอย่าลืมที่จะจองโต๊ะล่วงหน้าไว้สัก 2-3 เดือนก่อนเดินทางด้วยนะครับ เพราะลูกค้าแต่ละร้านแน่นมาก ๆ หากคุณพลาดแล้วจะหาว่าเราไม่เตือนไม่ได้นะ!

Share:

Leave a reply