ไม่ยาก…ถ้าอยากผ่าน ตม.
ปัจจุบันนี้การที่เราจะสามารถเดินทางเข้าประเทศใดประเทศหนึ่งได้ เราต้องผ่านการตรวจสอบจากตำรวจค้นคนเข้าเมือง หรือที่เราเรียกกันว่า ตม. ซึ่งเป็นการตรวจเพื่อไม่ให้มีการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ดังนั้นก่อนที่จะเดินทางไปเราควรเตรียมตัวเเละเตรียมเอกสารให้พร้อมเพื่อรับมือกับมาตราการของแต่ละประเทศ วันนี้เราจึงรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับ ตม. มาให้เหล่านักท่องเที่ยว จะมีประโยชน์และสาระมากขนาดไหน มาดูกันเลย
- การแต่งกาย
เราควรที่จะเเต่งกายสุภาพเรียบร้อย เพื่อเป็นการให้เกียรติประเทศนั้นๆ และเพื่อภาพลักษณ์ที่ดีของตัวเราเอง เพราะมันอาจจะเป็นเหตุผลที่ ตม. สามารถปฏิเสธการขอเข้าเมืองของเราได้ ดังนั้นเราควรที่จะแต่งตัวดีๆ ใส่เสื้อผ้าสบายๆ ไม่โป๊จนเกินไป
- กริยาท่าทาง
เราควรที่จะแสดงออกถึงความเป็นมิตรของเราในการเดินทางมาที่นี่ และห้ามตื่นตระหนกเพราะอาจจะทำให้เราดูพิรุธ เวลาพูดคุยเราควรที่จะใช้น้ำเสียงที่สุภาพไม่ควรใช้น้ำเสียงแข็งหรือพูดห้วนๆ เพื่อเป็นการให้เกียรติคู่สนทนาของเราไปในตัวด้วย ดังนั้นเรื่องนี้จึงเป็นอีกสิ่งที่เราไม่ควรชั่งใจ เพราะอาจนำไปสู่การตัดสินได้โดยสั่งเกตจากภายนอก
- เอกสาร
เราควรที่จะเตรียมเอกาสารไปให้พร้อมอย่างละเอียด เพื่อเป็นประโยชน์แก่ตัวเราเอง โดยเราควรที่จะเตรียมเอกสารเหล่านี้ไป คือ
- เอกสารส่วนตัว คือ วีซ่าและพาสปอร์ต ซึ่งสองสิ่งนี้จะใช้ในการยื่นแสดงตัวตนของเราต่อ ตม. เพื่อใช้ในการตรวจสอบก่อนเข้าเมือง โดยพาสปอร์ตเปรียบเสมือนบัตรประจำตัวประชาชน และวีซ่าคือหนังรับลองและขออนุญาติเข้าเมืองนั้นๆ ซึ่งเรานั้นต้องใช้วีซ่าและพาสปอร์ตให้ถูกประเภท
- เอกสารที่พัก เราควรเตรียมเอกสารที่พักไปด้วย เพื่อยืนยันว่าเรามาเที่ยวหรือมาทำกิจธุระนั้นจริงๆ และมีที่พักรองรับ ควรที่จะมีทั้งวันที่เข้าเช็คอินและวันที่เช็คเอาท์เพราะจะเป็นการแสดงไทม์ไลน์และละเอียดว่าตรงกับที่บอกกล่าวหรือไม่
- เอกสารการเดินทางกลับ เราควรที่จะมีเอกสารเที่ยวบินการเดินทางกลับด้วย เพื่อใช้แสดงให้เขาเห็นว่าเรามีกำหนดการและวันเวลาที่ต้องเดินทางกลับ จะช่วยยืนยันได้ในอีกระดับนึงว่าเรานั้นเดินทางเข้าเเบบถูกต้องไม่ได้มีจุดประสงค์อื่นแอบแฝงในการเดินทางมาครั้งนี้
- เอกสารการเที่ยวอย่างละเอียด ในส่วนนี้จะเปรียบเสมือนไทม์ไลน์ในการมาครั้งนี้ ว่าเรานั้นจะไปที่ใดพักที่ใด เช่น วันนี้เราอยู่เมืองนี้กี่วัน และจะไปต่อที่เมืองไหน เข้าพักที่ไหนบ้าง รวมทั้งเอกสารสำหรับบางคนที่เช่ารถมาใช้งาน เพราะแต่ละอย่างจะมีวันเวลากำหนดการของมัน ดังนั้นจึงสามารถแสดงให้เห็นและช่วยเราได้ในระดับนึงสำหรับการตรวจสอบ
- การตอบคำถาม
อาจมีการซักถามถึงสาเหตุที่มาหรือข้อมูลส่วนตัวของเรา ขั้นตอนนี้สำคัญมากๆ เราจะได้เข้าเมืองไหมขึ้นอยู่กับตรงจุดนี้ เช่นถามว่าคุณมาทำอะไร คุณมากับใคร คุณพักที่ไหน ซึ่งโดยส่วนมากสิ่งที่ถามก็มักจะเป็นคำถามทั่วไปสำหรับคนทีพึ่งพบเจอกัน ดังนั้นเราควรทำตัวดีๆ ตอบไปตามตรง และเราควรที่จะเตรียมภาษามาบ้างนะเพราะในการถามตอบจะเป็นการใช้ภาษาอังกฤษ ดังนั้นเราควรที่จะเตรียมตัวดีๆ เพราะถ้าเราเตรียมตัวเองไปพร้อมเราจะมีชัยไปกว่าครึ่ง
- หากเราติด ตม. ควรทำอย่างไร
อันดับแรกหากถามตอบแล้วเขาเกิดข้อสงสัยหรือจับสังเกตุบางอย่างได้ เราจะโดนรวบตัวทันทีจะมีการ์ดเดินเข้ามาพาตัวเราไปยังอีกจุดหนึ่งหรือใครที่เดินทางบ่อย อาจเรียกกันว่าห้องเย็นโดยเขาอาจจะสอบถามเพิ่มเติมแบบละเอียดตรงจุดที่เขามีข้อสงสัย ซึ่งเมื่อเราเข้าไปในห้องเย็นแล้วเขานั้นจะเรียกสัมภาษณ์ทีละคน สิ่งที่เราควรทำ คือนำเอกสารทั้งหมดที่ใช้ในการมาครั้งนี้แสดงให้เขาดู และควรติดต่อคนที่มาด้วยไว้ล่วงหน้าเพราะ ตม. อาจจะเดินออกไปถามหาคนที่มาด้วยได้ เมื่อถึงเวลาสัมภาษณ์เราก็ควรใช้น้ำเสียงสุภาพ ไม่โวยวาย และสิ่งที่เราต้องห้ามทำคือการเซ็นเอกสารเพราะบางครั้งเขาอาจจะไม่สอบถามเราและนำเอกสารมาให้เราเซ็นเลย ซึ่งนั้นคือการเซ็นยอมรับการส่งตัวกลับ ดังนั้นตรงจุดนี้เราควรที่จะระวังให้มาก สุดท้ายแล้วสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการควบคุมสติเพราะเราต้องใช้ในเหตุการณ์นี้ และเราไม่ควรนิ่งเฉยเพราะเราอาจถูกส่งกลับประเทศได้
ดังนั้นก่อนเดินทางไปที่ใดเราควรมีความพร้อมตั้งแต่ตัวเรา และเอกสารข้อมูลที่เราต้องใช้ แล้วก็เราควรที่จะดำเนินตามขั้นตอนของเขาให้ถูกต้องไปกลับตามเวลาที่เราแจ้ง ไม่ควรทำผิดกฎระเบียบ เพื่อผลประโยชน์ที่ดีต่อตัวเราและส่วนรวม สำหรับใครที่กำลังจะเดินทางก็ขอให้เดินทางโดยสวัดดิภาพไม่ติดขัดตรงจุดใด และขอให้เที่ยวให้สนุกนะครับ
