9 ชุมชนน่าเที่ยว ไปเยือนสักครั้ง สร้างความสุขใจไม่รู้ลืม?
?“เหนื่อยมั้ย ? กับการดำเนินชีวิตไปในแต่ละวัน ผ่านเรื่องราวต่าง ๆ ที่ถาโถมเข้ามา” ถึงเวลาพับเก็บความว้าวุ่น วุ่นวายใส่ลิ้นชัก แถมกุญแจปิดผนึกชั่วครู่ กลับสู่ความเรียบง่าย ปลดเปลื้องพันธนาการจากห่วงเวลาไปกับ “9 ชุมชนน่าเที่ยว” สร้างความสุขกายสบายใจให้แก่ตัวคุณ ให้มีรอยยิ้มปรากฏอยู่บนใบหน้า ไปพบเจอผู้คนที่มีมิตรไมตรี วิถีแห่งความสุขกันนะคะ พร้อมแล้ว กอดกระเป๋าใบโปรด แล้วไปกันเลย
① ชุมชนบ้านป่าแป๋ จังหวัดแม่ฮ่องสอน
ชุมชนเล็ก ๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ในศูนย์พัฒนาโครงการหลวงแม่สะเรียงเป็นชุมชนแห่งความพอดีและอยู่คู่กับธรรมชาติ ดำรงวิถีชีวิตแบบเรียบง่าย เน้นการทำนา ปลูกผักปลูกพืชเพื่อรับประทาน เป็นจุดเด่นที่ดึงดูดใจนักท่องเที่ยวให้เดินทางมาสัมผัส เพื่อเรียนรู้และท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์แบบวิถีชุมชนแสนน่ารัก เป็นกันเอง และมีที่พักในรูปแบบโฮมสเตย์ไว้บริการนักท่องเที่ยว หลีกหนี้ความวุ่นวายจากในเมืองกรุง มาใช้ชีวิตเรียบง่ายแต่ก็สุขใจดีที่นี่กันนะคะ
② ชุมชนบ้านแม่กำปอง จังหวัดเชียงใหม่
หมู่บ้านเก่าแก่อายุราว 100 ปี อยู่ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่ประมาณ 50 กิโลเมตร ตั้งอยู่ในกิ่งอำเภอแม่ออน จังหวัดเชียงใหม่ ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางขุนเขาที่มีความสูงเหนือระดับน้ำทะเลประมาณ 1,300 เมตร ชุมชนแห่งนี้มีความสมบูรณ์ทางธรรมชาติที่ครบครัน ไม่ว่าจะเป็น ลำห้วยที่ไหลผ่านบริเวณใกล้เคียงกับชุมชน ไร่ชาไร่กาแฟ น้ำตก หรือป่าไม้เขียวขจีปกคลุมคราครึ้ม รวมถึงอากาศที่หนาวเย็นตลอดทั้งปี บรรยากาศค่อนข้างเงียบสงบ เหมาะแก่การเดินทางมาพักผ่อน สูดโอโซนแห่งธรรมชาติกันให้เต็มปอด ชาวบ้านที่นี่ก็มีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ พึ่งพาอาศัยกันเหมือนพี่น้อง มาโอบกอดความสุขกันให้เต็มแขนที่นี่ “แม่กำปอง”
③ ชุมชนบ้านห้วยน้ำกืน จังหวัดเชียงราย
หากคุณต้องการปลดปล่อยความเครียด ปลดเปลื้องตัวเองจากพันธนาการแห่งเวลา กลับสู่ความเรียบง่ายที่ไม่ต้องเร่งรีบไปพร้อมกับกาลเวลาที่หมุนไป “ห้วยน้ำกืน” คือจุดปลายปลายทางสำหรับคุณ ที่นี่อยู่ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรกรรม ผสมผสานกับวัฒนธรรมดั้งเดิม ความเป็นอยู่ที่เรียบง่าย อาศัยร่วมกับธรรมชาติได้อย่างกลมกลืน บรรยากาศร่มรื่นชวนน่าสัมผัส มีบ้านพักไว้บริการนักท่องเที่ยวประมาณ 8 หลัง ให้คุณได้มาเอนกาย ชาร์จพลังใจ กับหมู่บ้านที่ไม่หมุนไปตามกาลเวลาแห่งนี้
④ ชุมชนบ้านห้วยสะพานสามัคคี จังหวัดกาญจนบุรี
ชุมชนน่ารัก ที่ได้ชื่อว่า เป็นชุมชนแห่งการอนุรักษ์ กับความรักที่มีต่อผืนป่าของผู้คนในชุมชน ทุกคนต่างปลูกป่าไม้คืนความสมบูรณ์สู่ธรรมชาติ และเรียนรู้ที่จะอยู่กับผืนป่าได้อย่างสมดุล ตามรอยแนวพระราชดำรงของพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร สำหรับอาชีพหลักของชาวบ้านในชุมชนก็มีความน่าสนใจเช่นกัน เนื่องด้วยชาวบ้านจะปลูกต้นไผ่ไว้ในแต่ละบ้านและป่าในชุมชน จากนั้นจะนำต้นไผ่มาสานเป็นเปลขายเลี้ยงชีพ และอีกหนึ่งอาชีพ คือ การทำข้าวเกรียบสมุนไพรสีรุ้ง ซึ่งเป็นอาหารที่บรรพบุรุษที่นี่ทำต่อกันมาอย่างยาวนาน ช่วงหลักได้มีการน้ำผัก ผลไม้ ดอกไม้มาเป็นส่วนผสมในการทำ จนกลายเป็นข้าวเกรียบสีสันสวยงามที่เห็นกันในทุกวันนี้
⑤ ชุมชนแหลมมะขาม จังหวัดตราด
มาต่อกันที่ชุมชนเก่าแก่ริมทะเล มีต้นยางกราดขึ้นปกคลุมสร้างร่มเงา มีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ คือ ป่าชายเลนที่คอยให้ความร่มรื่นและเป็นแหล่งอนุบาลสัตว์น้ำ เพิ่มเติมความสมบูรณ์ให้แก่ธรรมชาติ นักท่องเที่ยวสามารถล่องเรือชมป่าชายเลนแห่งนี้ภายในระยะทางกว่า 3 กิโลเมตร พบสัตว์นานาชนิด เช่น ลิงแสม อีกา คอยออกมาทักทายอยู่เป็นระยะ ๆ เมื่อมาถึงปากอ่าว ก็จะพบกับความสวยงามจากวิวเกาะช้างที่เป็นภาพอันน่าประทับใจ และที่นี่ก็เป็นชุมชนประมง ที่คุณจะได้มาร่วมทำกิจกรรมต่าง ๆ กับชาวบ้าน เช่น กิจกรรมงมหอยปากเป็ด วางลอบปู เป็นต้น มาเก็บเกี่ยวประสบการณ์สุดพิเศษไปด้วยกันนะคะ
⑥ ชุมชนบ้านป่าเหมี้ยง จังหวัดลำปาง
ชุมชนสงบสุข ที่ตอบโจทย์สำหรับใครที่ต้องการสถานที่พักผ่อนสบาย ๆ บรรยากาศดีและสงบ ชุมชนบ้านป่าเหมี้ยงตั้งอยู่ในเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน อำเภอปาน โอบกอดไปด้วยผืนป่าเขียวขจีและขุนเขาน้อยใหญ่ การได้มานอนพักผ่อนในชุมชนแห่งนี้นับว่าเป็นความฝันสำหรับใครหลายคน เสียงสายน้ำที่ไหลรินช่วยบำบัดความเครียดได้อย่างไม่รู้ตัว และตื่นขึ้นมาพบกับต้นไม้ใบหญ้าเขียวชอุ่มริมหน้าต่าง ความฝันเหล่านี้จะเป็นจริงได้ เมื่อคุณได้มาเยือนที่ชุมชนแห่งนี้ และอีกหนึ่งจุดที่น่าสนใจ คือ ชาวบ้านจะเก็บใบชามาจากป่าเพื่อประกอบอาหาร ซึ่งชาวบ้านจะเรียกใบชานี้ว่า “เหมี้ยง” เป็นที่มาของชื่อหมู่บ้านนั่นเอง
⑦ ชุมชนอ่าวคราม จังหวัดชุมพร
อ่าวคราว เป็นที่ตั้งของชุมชนประมงเล็ก ๆ ที่มีประมาณ 20 หลังคาเรือน อยู่ร่วมกันฉันพี่น้อง สะท้อนวิถีชีวิตของชาวบ้านแห่งอำเภอสวี จังหวัดชุมพร รอคอยให้คุณได้มาสัมผัสมนต์เสน่ห์แห่งชาวเล ที่สืบสานวัฒนธรรมอันเป็นมรดกทางภูมิปัญญาจากบรรพบุรุษมาอย่างยาวนานกว่า 100 ปี จนเป็นเอกลักษณ์ประจำถิ่น ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันกับท้องทะเล จับกุ้ง หอย ปู ปลา มาประกอบอาหารและใช้เลี้ยงชีพ จนในวันนี้ทางชุมชนอ่าวบ้านได้เปิดที่พักในรูปแบบโฮมสเตย์ขึ้น 2 แห่ง ได้แก่ “อ่าวครามโฮมสเตย์” และ “แดนโดม…โฮมสเตย์” ที่พักไว้บริการนักท่องเที่ยวให้มาเปิดประสบการณ์ใหม่ไปกับชุมชนแห่งท้องทะเลนี้
⑧ ชุมชนเกาะแรต จังหวัดสุราษฎร์ธานี
หลายคนอาจจะไม่คุ้นหูสำหรับสถานที่แห่งนี้ แต่บอกได้เลยว่าที่เกาะแรตนั้นน่าสนใจมาก ๆ เลยล่ะค่ะ ชุมชนเกาะแรต ตั้งอยู่ในอ่าวบ้านดอน อำเภอดอนสัก ในสมัยก่อน ชาวจีนได้โล้สำเภามาทางฝั่งไทย และได้ขึ้นมาพำนักที่เกาะนี้ ทำให้มีศาลเจ้าจีนบนเกาะให้ได้เห็น ผู้คนบนเกาะจิตใจดี น่ารักกันทุกคน ดำรงชีวิตอยู่กับความเป็นธรรมชาติ “เคย” คืออาหารขึ้นชื่อที่มีลักษณะเฉพาะตัวของที่นี่ และที่เกาะแรตนั้นก็มีทัศนียภาพที่สวยงาม มองเห็นวัดเขาสุวรรณประดิษฐ์ แหลมทวด หาดวังหิน จากทางซ้ายมือของเกาะมาเดินรับลมเย็น ๆ บรรยากาศสบาย ๆ ที่เกาะแห่งนี้ก็ดีไม่เลวเลยนะคะ
⑨ ชุมชนบ้านคีรีวง จังหวัดนครศรีธรรมราช
หมู่บ้านคีรีวง ตั้งอยู่ที่ตำบลกำโลน อำเภอลานสกา เป็นหมู่บ้านที่อยู่ในวงล้อมของภูเขา ชาวบ้านมีวิถีชีวิตที่พึ่งพาอาศัยกัน เป็นมิตร และมีรอยยิ้มอยู่เสมอ ซึ่งผู้คนที่นี่มีอาชีพหลักในการทำสวนผลไม้ผสม เรียกว่า “สวนสมรม” เช่น เงาะ ทุเรียน มังคุด สะตอ ฯลฯ และผลิตภัณฑ์OTOPมากมาย เพียบพร้อมไปด้วยป่าไม้เขียวชอุ่มขึ้นเรียงรายอยู่โดยรอบ แนะนำให้มาปั่นจักรยานที่นี่เพื่อความเพลิดเพลินไปกับธรรมชาติ สูดอากาศบริสุทธิ์ให้เต็มปอด และนอนโฮมสเตย์สักคืน เพื่อสัมผัสเสน่ห์แห่งชุมชนคีรีวงอย่างเต็มรูปแบบ