หากเอ่ยถึง “พระนครศรีอยุธยา” หรือที่เราเรียกกันสั้น ๆ ว่า “อยุธยา” เมืองเก่าของเราแต่ก่อน นักท่องเที่ยวต่างรู้จักกันเป็นอย่างดี ว่าเมืองแห่งนี้โดดเด่นด้วยวัดวาอารามมากมาย ที่เก่าแก่ สวยงาม และทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ นั้นเป็นสิ่งที่หลายคนคิดถึงกันเป็นสิ่งแรก เมื่อได้เดินทางมาเยือนเมืองนี้ แต่จะมีใครรู้บ้างมั้ยว่า อยุธยา ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกหลายแห่ง รอต้อนรับนักท่องเที่ยวกันอยู่มากมาย ดังนั้น แอดขอชวนทุกท่านมาเที่ยวอยุธยาในฉบับ “One Day Trip อยุธยา ที่ไม่ได้มีดีแค่วัดเท่านั้นนะ” เปิดมุมมองใหม่ จัดทริปเที่ยวแนวใหม่ ให้ทุกท่านได้รู้จักเมืองอยุธยากันมากขึ้น หากพร้อมแล้ว รัดเข็มขัดให้พร้อม แอดจะรับหน้าที่เป็นสารถีของคุณในวันนี้เองค่ะ ไปกันเลยยยย
❝ พระราชวังบางปะอิน ❞
ขับรถมาจากกรุงเทพฯแค่ชั่วโมงนิด ๆ ก็มาถึงเมืองอยุธยากันแล้ว สำหรับสถานที่แรกที่แอดจะพาคุณไปชมนั้น คงจะอยู่ในความทรงจำวันวัยเด็กของใครหลายคน ย้อนกลับไปเมื่อประมาณวัยประถมหรือมัธยม หลายโรงเรียนจะพานักเรียนมาทัศนศึกษากันที่ “พระราชวังบางปะอิน”
พระราชวังโบราณอันงดงามแห่งนี้ ถูกสร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยา โดยสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง เพื่อมีพระราชประสงค์ให้เป็นพระราชวังฤดูร้อนสำหรับพระมหากษัตริย์กรุงศรีอยุธยาจวบจนกระทั่งเสียกรุงศรีอยุธยา และได้รับการบูรณะอีกครั้งในสมัยรัชกาลที่ ๔ และรัชกาลที่ ๕ โดยแต่งเติมความสวยงามและสร้างพระที่นั่ง พระตำหนักต่าง ๆ เพิ่มขึ้น ภายในบริเวณพระราชวัง แบ่งพื้นที่ออกเป็น 2 ส่วนด้วยกัน คือ เขตพระราชฐานชั้นนอก อันเป็นที่ประทับ และเขตพระราชฐานชั้นใน ซึ่งเปิดให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวรับชมได้
สำหรับสถานที่น่าสนใจ ได้แก่ “หอเหมมณเฑียรเทวราช” สถาปัตยกรรมปรางค์ศิลาจำลองแบบจากปรางค์ขอมที่อยู่คู่พระราชวังมาอย่างช้านาน
“พระที่นั่งไอศวรรย์ทิพยอาสน์” พระที่นั่งปราสาทโถงกลางน้ำอันงดงาม มีจุดเด่นอยู่ที่หลังคาสร้างแบบปราสาทจตุรมุข มีรูปลักษณะเป็นกากบาทและมีมุขหันออกทั้ง 4 ด้าน โดยได้จำลองแบบมาจาก พระที่นั่งอาภรณ์ภิโมกข์ปราสาท จากในพระบรมมหาราชวัง
“พระที่นั่งวโรภาษพิมาน” สถาปัตยกรรมที่มีความงดงามไม่แพ้กัน ออกแบบเป็นพระที่นั่งทรงตึกชั้นเดียว สร้างสรรค์โดยใช้ศิลปะแบบคอรินเทียนออร์เดอร์
ทั้งหมดนี้ เป็นแค่ส่วนหนึ่งที่แอดได้หยับยกมาฝากกัน ภายในพื้นที่พระราชวังยังมีสถาปัตยกรรมอันงดงามอีกมากให้คุณได้รับชมความสวยงามที่น่าประทับใจ
❝ บ้านป้อมเพชร ❞
หลังจากรับชมความสวยงามของพระราชวังบางปะอินกันจนอิ่มตา ขับรถเข้าไปกันอีกสักนิด มาพักระหว่างทางกันกับร้านอาหารและที่พัก ที่เรียกได้ว่าฮอตที่สุดในเวลานี้ สำหรับ “บ้านป้อมเพชร” ตั้งอยู่ริมแม่น้ำ ซึ่งเป็นจุดบรรจบของแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำป่าสัก บรรยากาศร่มรื่นและเย็นสบาย
มาที่นี่ ห้ามพลาดกับการถ่ายรูปกับผนังอิฐที่ถูกออกแบบผสมผสานความเก่าและความเก๋ได้อย่างลงตัว โดยใช้อิฐแดงแต่ละก้อนซ้อนเรียงกันอย่างมีสไตล์ มีมุมยอดฮิตอยู่ตรงบริเวณขั้นบันไดที่จะขึ้นไปยังชั้นสอง ที่ไม่ว่าใครได้ผ่านไปผ่านมาต้องแวะมาเช็คอิน เก็บภาพชิค ๆ คูล ๆ สุดแนว ไปลงไอจีกันจนจุใจ
สำหรับอาหาร ก็จะมีเมนูขึ้นชื่อของอยุธยาอย่าง “กุ้งแม่น้ำเผา” ตัวโต ๆ ที่ทางร้านคัดมาเป็นอย่างดี สด ใหม่ เนื้อหวานฉ่ำ พร้อมมันกุ้งเยิ้ม ๆ ที่ใครได้กินเป็นต้องติดใจ บวกกับบรรยากาศดี ๆ ริมน้ำที่จะช่วยเสริมอรรถรสในการทานอาหารได้มากทีเดียว
❝ หอศิลป์แห่งชาติจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ❞
หลังจากได้เซลฟี่เก๋ ๆ และทานข้าวกันจนอิ่มท้อง ก็ขอพาทุกท่านไปตะลอนกันต่อมายังสถานที่รวบรวมเรื่องราวของเมืองอยุธยา ถ่ายทอดผ่านผลงานศิลปะมากมาย “หอศิลป์แห่งชาติจังหวัดพระนครศรีอยุธยา” ตั้งอยู่บริเวณชั้น 2 ในอาคารศาลากลางจังหวัดพระนครศรีอยุธยา (หลังเก่า) หรือ อาคารศูนย์ข้อมูลการท่องเที่ยวจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ก่อตั้งโดยมูลนิธิส้าง พรศรี เพื่อเป็นการส่งเสริม เผยแพร่ และอนุรักษ์งานศิลปะและวัฒนธรรมให้คงอยู่สืบไป
ภายในจัดแสดงผลงานของศิลปินระดับประเทศมากมาย ผลงานทุกชิ้นล้วนแล้วแต่ทรงคุณค่า ให้ประชาชนได้รับรู้โดยทั่วกัน นอกจากนี้ ยังมีหอนิทรรศการประวัติศาสตร์อยุธยา ที่ด้านในเป็นห้องจัดแสดงประวัติความเป็นมาของพระนครศรีอยุธยาและนำเสนอสถานที่ท่องเที่ยวภายในจังหวัด รวมถึงบริเวณชั้น 3 เองนั้น เป็นสถานที่จัดแสดงหอศิลป์ร่วมสมัยอโยธยาอีกด้วย เหล่าผู้ที่ชื่นชอบและหลงใหลในงานศิลปะไม่ควรพลาดโดยเด็ดขาด
❝ วังช้าง แล เพนียด ❞
นั่งรถมานาน ๆ คงจะมีเบื่อ ๆ กันบ้างใช่มั้ยคะ ? งั้นลองไปนั่งบนหลังช้างบ้างดีกว่าก็แล้วกัน ซึ่งเป็นกิจกรรมสุดฮิตเลยนะจะบอกให้ สำหรับวันนี้ แอดจะขอแนะนำ “วังช้างอยุธยา แล เพนียด” วังช้างที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองอยุธยา ยินดีต้อนรับนักท่องเที่ยวทุกท่าน ด้วยเหล่าน้อง ๆ ช้างทั้งหลาย ที่จะมอบประสบการณ์น่ารัก ๆ ให้กับคุณ
ที่นี่เค้ามีกิจกรรมให้ทำร่วมกับน้องช้างอย่างหลากหลาย เริ่มต้นจากสิ่งที่ไม่ควรพลาด คือ “นั่งช้างชมเมือง” รอบเกาะอยุธยา รับชมความสวยงามของวัดวาอารามและโบราณสถานต่าง ๆ ที่อยู่โดยรอบบริเวณ จากนั้นชมโชว์สุดน่ารักและความสามารถพิเศษจากน้องช้าง ที่จะมาเรียกรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ แวะลอดใต้ท้องช้างเพื่อเสริมความเป็นสิริมงคล สุดท้าย ไม่ลืมที่จะถ่ายรูปกับน้อง ๆ บันทึกเป็นความทรงจำร่วมกัน
ตอนนี้ ช้างไทยต้องการได้รับความดูแลเป็นอย่างมากเลยนะคะ หากได้ไปหาน้อง ๆ กันแล้ว ก็อยากจะเชิญชวนทุก ๆ ท่าน ร่วมช่วยเหลือช้างไทยด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นการบริจาคสิ่งของ อาหาร หรือปัจจัยอื่น ๆ เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของน้อง ๆ กันนะคะ
❝ พิพิธภัณฑ์ล้านของเล่น เกริก ยุ้นพันธ์ ❞
แวะชมของเล่นวัยเด็กสุดคลาสสิกและโด่งดังระดับโลก ที่ “พิพิธภัณฑ์ล้านของเล่น เกริก ยุ้นพันธ์” ที่ถูกสร้างขึ้นด้วยแรงบันดาลใจของรศ. เกริก ยุ้นพันธ์ อาจารย์ประจำสาขาวิชาวรรณกรรมสำหรับเด็ก มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ และยังมีผลงานการทำหนังสือเด็ก รวมถึงวาดภาพประกอบด้วยตัวท่านเอง จนเคยได้รับรางวัลนอมา (NOMA) จากประเทศญี่ปุ่น
จุดเริ่มต้นของพิพิธภันฑ์แห่งนี้ เกิดจากการที่ท่านได้ไปเห็นพิพิธภัณฑ์ของเล่นสังกะสีที่ญี่ปุ่น จากนั้นท่านก็เกิดแรงบันดาลใจที่จะสร้างพิพิธภัณฑ์ของเล่นขึ้นมาในประเทศไทย โดยเริ่มเก็บรวบรวมของเล่นเด็กทีละเล็กทีละน้อย ตระเวนไปตามหามาจากสถานที่ต่าง ๆ รวมถึงเครื่องมือเครื่องใช้ หนังสือสำหรับเด็กในอดีตมากมาย มาผนวกเข้ารวมกันจนเกิดเป็นพิพิธภัณฑ์ของเล่นขึ้นมาได้
ตัวอาคารพิพิธภัณฑ์สร้างเป็น 2 ชั้น บริเวณภายนอกจัดเป็นสวนพักผ่อนที่ร่มรื่นและมีร้านอาหารไว้บริการ ส่วนภายในทั้ง2ชั้น จัดแสดงของเล่นของสะสมไว้มากมาย มีทั้งของเล่นโบราณของไทย ตั้งแต่สมัยสุโขทัยจนถึงสมัยรัตนโกสินทร์ โมเดลการ์ตูนต่างประเทศขนาดใหญ่ ตลอดจนเครื่องมือเครื่องใช้โบราณและของที่ระลึก
❝ พระนครแซ่บ คาเฟ่ ❞
ขับรถถัดมาจากพิพิธภัณฑ์ล้านของเล่น มุ่งสู่ประเทศตุรกี เอ๊ะ ! ฟังไม่ผิดกันหรอกนะคะ เพราะแอดจะพาทุกท่านไปตุรกีกันในแบบฉบับอยุธยา กับคาเฟ่ที่แซ่บสุดในพระนครแห่งนี้ “พระนครแซ่บ คาเฟ่” แค่ฟังชื่อก็ถึงกับซี๊ดปากกันแล้วค่ะ คาเฟ่แปลกแหวกแนวในเมืองเก่า เมื่อเดินพ้นประตูไปแล้วราวกับหลุดเข้าไปอยู่ในประเทศตุรกีกันเลยทีเดียว ภายในร้านจะมีทั้งหมด 2 โซนด้วยกัน
ชั้นบนจะเป็นโซนคาเฟ่ ประดับด้วยของตกแต่งแนวตุรกี ไม่ว่าจะเป็นพรหมรองนั่งลวดลายสวยงาม โต๊ะนั่ง หมอนอิง รูปวาด พร๊อพเครื่องประดับมากมาย รวมไปถึงถ้วยชาม กาน้ำสไตล์ตุรกี ที่จะเนรมิตให้คุณเป็นเศรษฐีตุรกีกันในชั่วพริบตา ถ่ายรูปมุมไหนก็สวยสุดปัง เซฟลงไอจีกันกระหน่ำไปเลย
ชั้นล่าง จะเป็นโซนร้านอาหารที่เด็ดดวงไม่แพ้กัน เพราะที่นี่ได้ผสมผสานอาหารอีสานสุดแซ่บกับเครื่องดื่มและขนมที่ส่งตรงจากประเทศตุรีเข้าไว้ด้วยกัน มีที่นั่งทั้งในและนอกแบบโอเพ้นแอร์ บวกกับการบริการเป็นอย่างดีจากเจ้าของร้านและพนักงาน ทำให้เป็นอีก 1 คาเฟ่ที่มาแล้ว นอกจากจะได้พบความแปลกใหม่แล้ว ยังได้รับความประทับใจกลับไปอีกด้วย
❝ ตลาดน้ำอโยธยา ❞
จากคาเฟ่สุดแซ่บ ขับรถย้อนกลับมา เดินทางต่อไปยังตลาดน้ำโบราณ ที่จะมาคุณย้อนกลับไปในอดีต สำหรับ “ตลาดน้ำอโยธยา” ตลาดน้ำที่ใหญ่ที่สุดของอยุธยา แลนด์มากที่ได้รวบรวมสินค้าไว้มากมาย ตลอดจนสถาปัตยกรรมอันเป็นเอกลักษณ์ ภายในพื้นที่กว่า 80 ไร่
ขอแนะนำ กำเงินไว้ให้แน่น เพราะสินค้ามีให้คุณเลือกมากมายละลานตา แวะชิมของกินพื้นบ้าน ร้านอาหารเอร็ดอร่อยทั้งหลายที่ขายกันทั้งบนบกและในเรือ ช้อปปิ้งข้าวของเครื่องใช้นานาชนิด สินค้าแฮนเมดต่าง ๆ ที่เหล่าพ่อค้าแม่ค้าจะนำมาวางขายกันตามร้านรายทาง ซื้อเป็นของฝากติดไม้ติดมือกันไปก่อนกลับ
นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมอย่าง “ล่องเรือชมตลาดน้ำ” ไว้บริการนักท่องเที่ยว ให้ทุกท่านได้ล่องเรือชมวิถีชีวิตของชาวบ้านริมน้ำกันอย่างเพลิดเพลิน
❝ หมู่บ้านญี่ปุ่น ❞
ก่อนจะจบทริปนี้กันไปด้วยกัน แอดขอปิดท้ายด้วยการแวะเช็กอิน “หมู่บ้านญี่ปุ่น” ที่มีขึ้นตั้งแต่สมัยสมเด็จพระมหาธรรมราชา ซึ่งในสมัยนั้น ชาวญี่ปุ่นได้เข้ามาทำการค้าขายกับชาวไทย และได้สร้างหมู่บ้านแห่งนี้ไว้เป็นที่อยู่อาศัย
ปัจจุบัน ภายในหมู่บ้านญี่ปุ่นได้มีการจัดแสดงนิทรรศการโดยนำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับวิถีชีวิต ความเป็นอยู่ของชุมชนญี่ปุ่นในอยุธยา ปรับปรุงภูมิทัศน์ให้สวยงามขึ้น โดยการจำลองบรรยากาศให้คล้ายคลึงกับประเทศญี่ปุ่นให้มากที่สุด รวมถึงมีชุดกิมโมโนและยูกาตะ ไว้ให้นักท่องเที่ยวได้สวมใส่ถ่ายรูปให้เข้ากับบรรยากาศ
สิ่งที่ไม่อาจมองข้ามได้เลย คือ สถาปัตยกรรมต่าง ๆ ที่ถูกสรรสร้างขึ้นมีความประณีตและสวยงามตามแบบฉบับญี่ปุ่น ทั้งแท่นเสาหินที่สลักอักษรญี่ปุ่น ศาลเจ้า สวนหิน สะพานโค้งสีแดง รวมถึงมีการประดับตกแต่งด้วยธงปลาคาร์ฟและแวดล้อมด้วยต้นไผ่ให้ความร่มรื่น อีก 1 ความพิเศษในอยุธยาที่ซุกซ่อนอยู่ อยากให้ทุกท่านได้ไปเยี่ยมชมพร้อมเก็บภาพสวยงามแห่งนี้กัน
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ กับทริปอยุธยาที่นำมาฝากกันในวันนี้ แอดหวังว่ามันจะช่วยเติมเต็มประสบการณ์ท่องเที่ยวใหม่ ๆ ในอยุธยาให้กับทุกท่าน หากใครอยากลองเปลี่ยนบรรยากาศการเที่ยวเมืองเก่าในแบบเดิม ๆ ลองขับรถไปตามเส้นทางที่แอดแนะนำกันนะคะ ในโอกาสต่อไป แอดจะพาไปเที่ยวที่ไหนอีกบ้าง ต้องรอติดตามกันด้วยนะ
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
● โทร : 02-171-9999
● Facebook : https://www.facebook.com/TRAVIZGO.TH/
● Line : https://is.gd/vAO5c8
● Website : https://www.travizgo.com