รู้หรือไม่ว่า? วัดที่เป็นลวดลายอยู่ด้านหลังเหรียญกษาปณ์ที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนี้ เป็นสถานที่ที่มีอยู่จริง !
เหรียญกษาปณ์ดังกล่าว ถือกำเนิดขึ้นในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 โดยทุกๆเหรียญจะมีพระบรมรูปของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 อยู่ด้านหน้า และมีภาพของวัดลวดลายต่างๆตามมูลค่าเหรียญอยู่ด้านหลัง ซึ่งวัดทั้งหมดที่ปรากฎบนเหรียญเหล่านี้ ล้วนมีอยู่จริงทั้งสิ้น ได้แก่
วัดมหาธาตุวรมหาวิหาร (อยู่บนเหรียญ 25 สตางค์)
วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร (อยู่บนเหรียญ 50 สตางค์)
วัดพระศรีรัตนศาสดาราม (อยู่บนเหรียญ 1 บาท)
วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร (อยู่บนเหรียญ 2 บาท)
วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม (อยู่บนเหรียญ 5 บาท)
วัดอรุณราชวราราม (อยู่บนเหรียญ 10 บาท)
รายละเอียดอื่นๆเพิ่มเติม เลื่อนไปดูที่ภาพได้เลย
เหรียญ 25 สตางค์ : “พระบรมธาตุเจดีย์” ของ วัดมหาธาตุวรมหาวิหาร
หรือที่รู้จักกันในชื่อ “พระธาตุไร้เงา” พระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดวรมหาวิหาร ตั้งอยู่ใน อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช สำหรับชื่อ พระธาตุไร้เงา นั้นมาจากการที่ ไม่ว่าพระอาทิตย์จะส่องแสงมาจากทิศใด ก็ไม่สามารถทำให้พระธาตุเกิดเงาจากแสงที่สาดส่องลงมาได้
พระบรมธาตุเจดีย์ที่เป็นลวดลายบนเหรียญ เป็นสถาปัตยกรรมสไตล์ล้านนา และในส่วนยอดของเจดีย์ จะห่อหุ้มด้วยทองคำแท้ตามความเชื่อในสมัยก่อนว่า การบริจาคจะทำให้นำไปสู่นิพพาน
เหรียญ 50 สตางค์ : “พระบรมธาตุ” ของ วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร
พระอารามหลวงชั้นโท ชนิดราชวรวิหาร สถานที่ยึดเหนี่ยวจิตใจที่สำคัญแห่งหนึ่งของพี่น้องชาวเมืองเชียงใหม่ และสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังระดับโลกอันน่าภาคภูมิใจของประเทศไทย โดยส่วนมาก นักท่องเที่ยวหรือชาวเมืองเชียงใหม่จะพากันมากราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ หรือสักการะที่ดอยสุเทพแห่งนี้ และชื่นชมความงามของเมืองเชียงใหม่จากด้านบนดอยแห่งนี้เช่นกัน
ภาพที่เป็นลวดลายของเหรียญ 50 สตางค์ เป็นพระบรมธาตุ และ ฉัตร 4 มุมที่แทนสัญลักษณ์ของความร่มเย็นจากศาสนาที่จะแผ่กระจายไป 4 ทิศ
เหรียญ 1 บาท : “พระศรีรัตนเจดีย์” ของ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม
“วัดพระแก้ว” พระอารามหลวงชั้นพิเศษ ที่ถูกสร้างขึ้นพร้อมการสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์ ลวดลายที่อยู่บนเหรียญบาทที่คุ้นเคยกันเป็นอย่างดีคือ พระศรีรัตนเจดีย์ ตั้งอยู่บนฐานไพทีทางทิศตะวันตก มีต้นแบบมาจากเจดีย์ 3 องค์ ของวัดพระศรีสรรเพชญ์ในจังหวัดอยุธยา
ปัจจุบัน วัดพระแก้วเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมอย่างมากในกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางมาเยี่ยมเยียนประเทศไทย สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการเข้าไปชมความงามด้านใน ต้องแต่งกายให้สุภาพ ห้ามสวมเสื้อเปิดไหล่ กางเกงขาสั้น กางเกงขาสามส่วน กางเกงยีนส์ขาด กระโปรงสั้น และต้องสวมรองเท้าสุภาพในการเข้าชม
เหรียญ 2 บาท : “พระบรมบรรพต” ของ วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร
เดิมชื่อ “วัดสะแก” เป็นพระอารามหลวงชั้นโท ชนิดราชวรมหาวิหาร ลวดลายด้านหลังของเหรียญ 2 บาท คือภาพของพระบรมบรรพต หรือ เจดีย์ภูเขาทอง เป็นสถาปัตยกรรมที่โดดเด่น และสามารถมองเห็นได้ง่าย ตั้งตระหง่านเคียงคู่กับ “โลหะปราสาท” ของวัดราชนัดดารามวรมหาวิหาร
ปัจจุบัน ด้านบนของเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ที่รัฐบาลอินเดียถวายให้แก่รัชกาลที่ 5 และตัววัดสระเกศเอง ก็เป็นสถานที่สำคัญในการจัดงานลอยกระทงของทุกปี เป็นเวลา 7-10 วัน โดยเรียกงานเทศกาลนี้ว่า “งานภูเขาทอง”
เหรียญ 5 บาท : “พระอุโบสถ” ของ วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม
พระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดราชวรวิหาร ลวดลายที่ปรากฎบนเหรียญ 5 บาท คือ พระอุโบสถจตุรมุข ด้านเหนือและใต้เป็นหลังคา 4 ชั้น ด้านหน้ามีเครื่องหมาย “สีมา” และด้านหลังสลักเป็นรูปเสมาธรรมจักร
ในสายตานักท่องเที่ยวทั่วโลก จะนิยามชื่อวัดเบญจมบพิตรแห่งนี้ว่า “The Marble Temple” เพราะได้มีการนำหินอ่อนนำเข้าจากอิตาลีเพื่อนำมาก่อสร้างสถาปัตยกรรมแบบไทยๆแห่งนี้ จึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ดึงดูดสายตานักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติได้เป็นอย่างดี
เหรียญ 10 บาท : “พระปรางค์” ของ วัดอรุณราชวราราม
หรือที่ติดหูกันในชื่อ “วัดแจ้ง” พระอารามหลวงชั้นเอก ชนิด ราชวรมหาวิหาร และยังเป็น วัดประจำรัชกาลที่ 2 ลวดลายที่อยู่ด้านหลังของเหรียญ 10 ก็คือ พระปรางค์ของวัดอรุณฯ สถาปัตยกรรมแบบไทยๆ ประกอบไปด้วยพระปรางค์ประธาน และพระปรางค์ทิศอีก 4 ปรางค์
ปัจจุบัน วัดอรุณฯเป็นอีก 1 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวในการมาเยือนกรุงเทพฯ ด้วยสีขาวสะอาดของตัวพระปรางค์ ที่ไม่ว่าจะมาเยี่ยมเยียนเวลาไหน ก็สวยงามคอยต้อนรับนักท่องเที่ยวอยู่เสมอ แม้กระทั่งยามเย็นที่พระอาทิตย์ลับขอบฟ้าไปแล้ว ก็ยังได้เห็นความงามของวัดอรุณยามค่ำคืน
