? ผจญ Son Doong ถ้ำอัศจรรย์ใจในเวียดนาม ?

2989
0
Share:

“เวียดนาม” เมืองแห่งสายลมและเมฆหมอก ☁ เพียบพร้อมธรรมชาติอันสมบูรณ์แบบ แต่ใครจะไปคาดคิดว่า สิ่งเหล่านี้ก็มีอยู่ภายในถ้ำ แอดเลยเอาใจขาลุย ให้มาตะลุยกันที่  “Son Doong” ถ้ำขนาดยักษ์มหิมา รอต้อนรับนักเดินทางสายแอดแวนเจอร์ให้มาผจญภัยสุดตื่นเต้นจนต้องอ้าปากค้าง! ? ไปกันเลยครับ

          Son Doong หรือ เซินด่อง เป็นถ้ำขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติฟ็องญา-แก๋บ่าง อำเภอโบ๊จัก จังหวัดกว๋างบิ่ญ (Quang Binh) ของประเทศเวียดนาม ถูกค้นพบครั้งแรกในปีค.ศ. 1991 โดย “Ho Khanh” ชายท้องถิ่นที่เข้าไปเดินป่าในวันฝนตก ? เขาจึงพยายามหาที่หลบฝนจนค้นพบถ้ำขนาดใหญ่ มีไอน้ำลอยออกมาจากถ้ำ เขาจึงเดินเข้าไปสำรวจ ภาพที่เขาเห็นเป็นอันต้องตกตะลึง เพราะภายในถ้ำแห่งนี้มีเมฆลอยอยู่ด้วย ☁ เขานำเรื่องราวน่าอัศจรรย์นี้ไปเล่าให้คนอื่น ๆ ฟัง แต่พอเขาจะเดินทางกลับมาที่นี่อีกครั้ง เขาก็จำเส้นทางไปยังถ้ำเซินด่องไม่ได้แล้ว

          ถัดมา ในปีค.ศ. 2009 “Howard Limbert” นักเดินถ้ำชาวอังกฤษและคณะได้มาสำรวจ ? แล้วค้นพบถ้ำเซินด่องอีกครั้ง เขาจดจำเส้นทางมายังถ้ำ หลักจากนั้นการถูกค้นพบนี้ก็ได้สร้างให้ Howard Limbert เป็นนักเดินถ้ำที่โด่งดังไปในขณะนั้น และทำให้นักเดินทางที่ชื่นชอบการเดินถ้ำ อยากจะเก็บเกี่ยวประสบการณ์ท้าทายชีวิต ต่างอยากที่จะเดินทางมาเที่ยวชมถ้ำแห่งนี้สักครั้งหนึ่งในชีวิต ทำให้ถ้ำซินด่อง มีชื่อเสียงโด่งดังและได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก

ความใหญ่โตของถ้ำแห่งนี้ เรียกได้ว่า มหึมามาก กินพื้นที่กว่า 8.8 กิโลเมตร กว้างประมาณ 160 เมตร และสูงกว่า 200 เมตร สามารถยัดสนามฟุตบอล ⚽ สนามบินกันเข้าไปได้เลยทีเดียวล่ะครับ ภายในถ้ำจะแบ่งออกเป็น 4 ส่วน คือ บริเวณปากถ้ำ, First doline, Garden of Edam และ Wall of Vietnam ตลอดการเดินทางคุณจะได้พบกับชายหาด ป่าดงดิบ และแม่น้ำ ที่ทั้งหมดนี้ อยู่ภายในถ้ำ ย้ำว่าอยู่ในถ้ำนะครับ ว้าว จะมีถ้ำที่ไหนที่มีระบบนิเวศน์ครบสมบูรณ์มากขนาดนี้

                เริ่มต้นการเดินทาง ตะลุยเข้าไปยังถ้ำเซินด่อง บริเวณปากถ้ำจะมีไอน้ำพุ่งออกมาเป็นละออง ๆ ? สวมหมวกนิรภัยพร้อมไฟฉายที่ครอบไว้ ติดตั้งสายสลิงรอบเอวแล้วลัดเลาะไปตามเส้นทางอันคดเคี้ยว ผ่านช่องว่างที่ทั้งแคบและกว้างสลับกันไป เป็นประสบการณ์สุดตื่นเต้นและท้าทายเหล่านักเดินทางผจญภัย ลัดเลาะเส้นทางไปตามโพรงถ้ำสักระยะ จะพบกับแอ่งน้ำที่เราต้องเดินข้ามไป มีเส้นเชือกผูกไว้เป็นเส้นทางให้ได้จับและเดินไปตามแนวเส้นเชือก ท่ามกลางสายน้ำที่ไหลผ่าน มีความเย็นนิด ๆ ผ่านทางข้ามแม่น้ำกันมาแล้ว เดินลัดเลาะหิน “Hand of Dog” ไปจะถึงที่ตั้งแคมป์จุดแรก เรียกกันว่า “แคมป์สนามเรียบ” มี ชายหาดอยู่ใกล้ ๆ ลงเล่นน้ำท้าความเย็นกันให้สะใจ ?

             เดินทางกันต่อ ลัดเลาะตามช่องทางในถ้ำตามเดิม แต่จะเพิ่มความท้าทายมากยิ่งขึ้น ตื่นเต้นมากขึ้น ระมัดระวังหลุมหรือการลื่นกันไว้ด้วยนะครับ ผ่านช่องทางแคบ แล้วคุณจะได้พบกับ “Watch out for Dinosaurs” หรือที่เรียกว่า “ระวังไดโนเสาร์” ช่องแสงที่แรกของถ้ำเซินด่อง ผู้ค้นพบเป็นคนตั้งชื่อ ตั้งตามสิ่งสนใจรอบตัวหรือความรู้สึกต่อสถานที่นั้น ๆ โดยช่องแสงภายในถ้ำนั้นเกิดจากการพังทลายของเพดานถ้ำ ที่นี่เป็นช่องขนาดใหญ่ มองเห็นท้องฟ้า แสงแดดส่องกระทบลงมาทำให้ต้นไม้ได้เติบโตและงอกงามเป็นป่าดงดิบ มีจุดชมวิวที่คล้ายยอดเขาสูงตั้งอยู่กึ่งกลางช่องแสง ลักษณะเป็นขั้นบันไดขึ้นไป ความอัศจรรย์ใจที่ธรรมชาติได้รังสรรค์ให้ผู้คนได้เห็น ลัดเลาะมาตามแนวป่าดงดิบในถ้ำมาจะเป็นจุดตั้งแคมป์ที่สอง ⛺ ที่ “Garden of Edam” ช่องแสงแห่งที่สอง พื้นที่นี้จะเต็มไปด้วยยิปซั่มคล้าย ๆ ทะเลทราย

          ลุยกันต่อ กับด่านสุดท้าย ผ่านเส้นทางผจญภัยในถ้ำเซินด่องตามเดิม ความท้าทายทุกอณู จากจุดตั้งแคมป์ที่สองไปประมาณ 1 กิโลกว่า ๆ จะพบกับ “Wall of Vietnam” กำแพงหินที่สูงที่สุดในเวียดนาม ความสูงอยู่ที่ประมาณ 200 เมตร เป็นด่านสุดท้ายก่อนออกจากถ้ำ แต่บอกแล้วว่าความท้าทายมีทุกอณู คุณจะต้องผ่านทะเลสาบไปก่อนนะครับ โดยการพายเรือข้ามไป ⛵

หากคุณอยากจะเข้ามาสัมผัสถ้ำเซินด่องกันแล้วล่ะก็…ต้องจองไว ๆ เลยนะครับ ผมขอบอกไว้ก่อน เพราะที่นี่เขาจำกัดคนให้มาท่องเที่ยวได้ 500 คนต่อปี เหตุที่เป็นเช่นนี้ เพราะทางอุทยานอยากรักษาถ้ำไว้ให้สมบูรณ์มากที่สุด ไม่ให้ถูกทำลายไปได้ เพื่อที่ทุกคนจะได้มาเที่ยวชมความอัจรรย์ของถ้ำเซินด่องได้ตลอดไป ช่วงเวลาที่แนะนำให้เดินทางมาถ้ำ นั่นก็คือ เดือนมีนาคมถึงเดือนพฤษภาคม (ช่วงต้นฤดูฝน) จะดีที่สุด ธรรมชาติจะสวยงามมากยิ่งขึ้น อัศจรรย์ใจยิ่งกว่าเคย อยากผจญภัยต้องที่ถ้ำเซินด่อง แต่ถ้าอยากเกี่ยวข้องต้องเกี่ยวก้อยกันน๊าาา

Share: